วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[HxH Fic]Give and Take[HisoIllu]

Give and Take
Fandom : Hunter x Hunter
Rate : NC-17
Pairing : HisokaxIllumi






:: Exchange ::






เอี๊ยด....

เสียงประตูถูกผลักเปิดอย่างแผ่วเบาดังขึ้นในความเงียบงัน พร้อมกันนั้นอิรูมิรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนอยูในห้องนี้....

ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าเข้ามาในห้อง

บานประตูเหวี่ยงปิดคืนที่ เส้นแสงสุดท้ายค่อยๆ เลือนหายไป ความมืดรายล้อมอยู่รอบตัว หากไม่เป็นอุปสรรคในการมองเห็นของดวงตากลมโตสีดำสนิท แต่ไหนแต่ไรมายามค่ำคืนอันไร้แสงสว่างใดๆ ก็เป็นโลกของพวกเขาอยู่แล้ว



.....โลกของมือสังหาร.....


แสงสว่างน่ะ ไม่จำเป็นหรอก

และอีกอย่างเขาค่อนข้างมั่นใจด้วยว่าคนที่อยุ่ในห้องนี้ไม่ใช่ศัตรู

แสงสว่างจากหลอดไฟถูกเปิดขึ้นแทบจะในทันทีราวยืนยันความคิดนั้น



ดวงตาที่มีสีเดียวกับรัตติกาลอันว่างเปล่ามองตรงไปยังร่างของมายากรจิตวิปลาส

"มาทำอะไรที่นี่ ฮิโซกะ"

เจ้าของชื่อไม่ตอบคำ ส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้ ก่อนจะก้าวมาหา ถ้าเป็นคนอื่นคงถอยหนีหรือตั้งการ์ดป้องกัน แต่เขายืนเฉยปล่อยให้เจ้าตัวเข้ามาใกล้

เหตุผลน่ะเหรอ?

มือเรียวยาวเกี่ยวปอยผมยาวสลายสีดำเข้มขึ้นมาพันเล่น แล้วค่อยๆ รุกประชิดดันร่างอีกฝายถอยร่นไปเรื่อยจนหลังติดกำแพง

อิรูมิเงยหน้ามองด้วยสายตาว่างเปล่าดุจเดิม ขณะที่ริมฝีปากบางของอีกคนทาบทับลงมา ปลายนิ้วอุ่นร้อนโลมเลียไปทั่วริมฝาก พร้อมกับบีบคางแน่น บังคับให้เผยอปากออกรับจุมพิต เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามต้องการอีกฝ่าย และทันทีที่ลิ้นร้อนๆ นั้นแทรกผ่านเข้ามาในโพรงปากนุ่มอุ่นก็ชอนไชลึกล้ำ เก็บกวาดทุกซอกมุมราวกับจะกลืนกิน

ไม่กี่นาทีเนิ่นนานราวชั่วโมง

ร่างสูงถอนริมฝีปากออก ต่างคนต้องหอบหายใจ น้ำใสๆ ไหลย้อยออกมาจากโพรงปาก ฮิโซกะแลบลิ้นเลีย เมื่อมันหยาดหยดลงมาจนถึงคาง แล้วไล้จูบขึ้นไปตามแนวกราม ก่อนจะงับใบหูเบาๆ เย้าเล่น

"เห็นเงินที่โอนไปแล้วใช่ไหม?"

"มากกว่างานที่ฉันทำ แสดงว่านายจะ 'ทำ' ต่อจากนี้ล่ะสิ" อิรูมิตอบเสียงเรียบ เขาได้ยินเสียงหัวเราะวิกลจริตริมหู

"ใช่"


............................
.................

.......

..
.


เสียงครางกระเส่าดังไปทั่วห้องคลอไปกับเสียงหอบหายใจทุ้มต่ำปนกับเสียงหัวเราะวิปลาส

ร่างสูงหนายกเรียวขาขาวขึ้นพาดบ่า ก่อนจะกระแทกกระทั้นเข้าไปในข้องทางคับแคบ จนร่างข้างใต้ไหวระริก เส้นผมสีดำยาวแผ่สยายเต็มผ้าปูสีขาว ตัดกันอย่างกับสีของเลือดและเนื้อหนัง เหงื่อพราวบนใบหน้าสวย ส่งผลให้เส้นผมที่ปลิวกระจายมาโดนใบหน้า เพราะเจ้าของร่างเกลือกศีรษะไปมาอย่างไม่อาจทนกับการรองรับอารมณ์ใคร่รุนแรง เล็บทั้งสิบจิกทึ้งผืนผ้าใต้ร่าง

สำหรับฮิโซกะ...มีเซ็กส์กับอิรูมิสนุกตรงนี้แหละ

ใบหน้ายามปกติเกินกว่าคำว่า 'เฉยชา' น้ำเสียงพูดราบเรียบจังหวะเดียว ไม่ว่าจะยามสังหารหรือพูดคุยธรรมดา

กลับแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้ากล้ำกลืนฝืนทน เสียงครางหวานๆ ดังผะแผ่วรวยริน กับร่างกายที่บิดเร่าทรมานจากสัมผัสปรนเปรอของเขา

และถึงจะมีสัมพันธ์กันกี่ครั้งครอบครองเป็นเจ้าของร่างกายนี้กี่คราก็ไม่ทำให้รู้สึกว่าร่างตรงหน้าแปดเปื้อนหรือลดทอนความบริสุทธิ์ลงไปเลย

ผิวกายขาวซีดที่เรียบลืนกว่าที่คิด เส้นผมดำยาวสลวยนุ่มนวล

ฮิโซกะคิด...พลางฝังคมเขี้ยวลงบนซอกคอขาว แล้วขบหนักบ้างเบาบ้างไล่ลงไปถึงลาดไหล่กลมเกลี้ยง ไปพร้อมกับลูบเคล้นคลึงทั่วแผ่นอกแบนราบ สะกิดตุ่มไตสีอ่อนจางจนลมหายใจติดขัดกว่าเดิม แล้วหอบครางกระเส่าอย่างไม่อาจทน แต่ก็ได้ยินเพียงผะแผ่วเท่านั้น เพราะเจ้าตัวเม้มริมฝีปากแน่นสนิท

และยิ่งมากขึ้นไปอีก ยามเขารุกรานต่ำลงไปเรื่อยๆ เพื่อมอบความหฤหรรษ์อันสุดยอดให้ส่วนที่อ่อนไหวที่สุดนั้น ลิ้นร้อนดูดดึงขบเม้ม...ใช้ฟันครูดเบาไปไปตามรุปร่างที่ขยายตัวขึ้นทุกทีอย่างหนักหน่วง จนเจ้าของร่างที่โดนรังแกแทบทนไม่ไหว มือที่เคยจิกทึ้งผ้าปูกดขยี้ศีรษะที่ขยับสนองอารมณ์ตัวเอง ในหัวรู้สึกหน้ามืดตาลาย พร่าพรายไปด้วยสีสันมากมาย

หากสัมผัสรุกเร้านั้นกลับหยุดลงดื้อๆ ราวแกล้งกัน เปลี่ยนไปเล่นกับต้นขาขาวดูดเม้มเฉียดความต้องการที่ถูกบังคับให้ตื่นขึ้นไปมา

ร่างเพรียวบางหอบครางรุนแรงจนตัวงอ บนผิวกายขาวซีดมีรอยแดงช้ำและรอยขบกัดเป็นซี่ฟันแทบทุกตารางนิ้ว ราวกับเนื้ออันโอชะที่ถูกแทะเล็มอย่างเอร็ดอร่อยอย่างตะกรุมตะกราม

ร่างทั้งร่างสั่นระริกด้วยอารมณ์ที่ค้างคา....แต่ไม่อาจปรนเปรอตัวเองให้จบสิ้นไปได้ แต่กระนั้นก็ไม่มีเสียงร้องขอสักครึ่งคำแม้แต่น้อย

ดวงตาเรียวคมจ้องเขม็ง...มองภาพของร่างที่ทอดกายเบื้องล่างด้วยอารมณ์สุนทรีย์ ก็อยากจะแกล้งมากกว่านี้อยู่หรอกนะ แต่เขาก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

ไม่มีสัญญาณเริ่ม.....แก่นกายอันร้อนระอุด้วยความต้องการยัดเยียดลงไปในในช่องทางคับแน่นอีกครา ทั้งยังเร่งจังหวะถี่รัวอย่างไม่คิดยับยั้งชั่งใจ ข้างในตัวร่างตรงหน้าบีบรัดตอบสนองจนเขาแทบละลาย ดูดกลืนจนเขาแทบตกลงไปในหลุมแห่งความกำหนัด จนในที่สุดร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวหลายต่อหลายครั้งก็ปลดปล่อยออกมาติดๆ กัน

น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อนออกมาจากช่องทางเบื้องล่างปะปนไปกับเลือดสีแดง


ฮิโซกะหัวเราะรวนอย่างสุขสม ก่อนทิ้งร่างลงโอบกอดใครอีกคนที่กำลังพยายามผลักดันร่างหนากว่าให้ออกไปจากตัวเอง

"เสร็จงานแล้ว...ลุก ฉันจะกลับบ้าน" อิรูมิกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังเดิม หากเจ้าของอ้อมแขนไม่ยอมปล่อยสวมกอดแนบแน่น คลอเคลียไม่ห่าง

"สองรอบเอง... อยู่แก้เบื่อให้ฉันหน่อยสิ อุตส่าห์ลงทุนไปตั้งเยอะ สุดท้ายดันชวด..อดสู้กับหัวหน้าแมงมุมซะได้"

เจ้าของเสียงฝังจมุกลงกับกกหู โลมเลียไปทั่วหมายจะปลุกเร้าอารมณ์ให้เกิดขึ้นอีกครา

อิรูมิถองศอก.... พลางใช้ขากระทุ้งอีกแรง

"ไม่ได้ ขืนมากกว่านี้ ฉันจะไปทำงานส่วนของพรุ่งนี้ไม่ทัน"

เมื่ออีกฝ่ายยืนยันเสียงเย็นเช่นนั้น 'นายจ้าง' อย่างเขาก็ทำได้แค่ยกมือยอมแพ้ ปล่อยคนในอ้อมแขนไปแต่โดยดี ร่างเพรียวบางคว้าผ้าปูที่หลุดลุ่ยขึ้นห่อตัวลวกๆ แล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ


สายน้ำเย็นๆ ไหลผ่านผิวกายที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำทุกส่วนสัด ความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมา เสียงน้ำจากฝักบัวดังก้องในห้องแคบๆ ช่วยให้หัวใจที่เต้นรัวสงบลงอย่างช้าๆ

และเมื่อก้าวออกมา...ก็ไม่พบร่างของมายากรวิปลาสอันคุ้นตาแล้ว


 [Fin.]

[Fate Fic]...Flash Back...[oneshot]

. Flask Back .

Fandom : Fate Series
[Fate/Zero,Fate/Strange Fake]

Rate :
PG

Pairing:
Gilgamesh x Enkidu




: HUG :



ร่างในอ้อมแขนช่างบอบบางนัก

 กิลกาเมซทอดสายตาไปไกล มือกระชับโอบร่างบางแน่นกว่าเดิม

สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนจางของใบไม้และต้นหญ้า กลิ่นอายอบอุ่นของดวงตะวัน กลิ่นกายประจำตัวของเอนคิดู ลมหายใจผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอตกระเรี่ยบนลาดไหล่แกร่ง มือเรียวเกาะกอดราวเด็กตัวน้อยซ้ำยังอิงซบใบหน้ากับแผ่นอกกว้างเต็มที่ ท่าทางสบายจนคร้านจะปลุกให้ตื่น



คนสำคัญ.....

สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด 



ความรู้สึกนั้นค่อยๆ แทรกซึมไปในหัวใจอันแข็งกระด้างอย่างช้าๆ
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่าวันที่เขาต้องสูญเสีย 'คนสำคัญเพียงหนึ่งเดียว' นี้ไปตลอดกาล กำลังคืบคลานมาอย่างช้าๆ เช่นกัน




: Anywhere Anytime :





ดาราพร่างพรายเต็มนภา เคียงคู่จันทรอันงามล้ำ

นิวาสถานแสนเงียบงันมีเพียงสองร่างชิดใกล้คลอเคลีย



ร่างสูงใหญ่เอนกายลงกับหน้าตัก สหายคนสำคัญอย่างสบายอารมณ์ มือข้างขวาแกว่งไกวใต้สายน้ำเยียบเย็น หิ้งห้อยกลางคืนเกาะอยู่ตามดงไม้เปล่งประกายระยิบระยับราวทองคำ



เอนคิดูหลับตาพริ้ม นั่งนิ่งทำหน้าที่ต่างหมอนให้ผู้ที่เป็นทั้งสหายและพี่ชายด้วยท่าทีสงบ ใบหน้านวลเปื้อนรอยยิ้มน้อยๆ ยามสบกับดวงตาสีแดงราวเปลวเพลิงที่มองมา



นี่....เอนคิดู อยู่ที่นี่เจ้ามีความสุขใช่หรือไม่?”



เจ้าของเส้นผมยาวสลวยเอียงศีรษะด้วยความงุนงงแก่คำถาม ปอยบางส่วนระตกลงมาต้องใบหน้าคมคายของผู้อยู่เบื้องล่าง กิลกาเมซหยิบมันขึ้นมาพันเล่น ก่อนสูดกลิ่นหอมรื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของอีกคนจนเต็มปอด



มีสิ ที่นี่มีทั้งแชมฮัต ท่านนินสัน ทุกๆ คนในเมือง แล้วก็เจ้า พี่ข้า



เจ้าตัวตอบพร้อมรอยยิ้ม กษัตริย์หนุ่มรู้สึกหัวเสียนิดหน่อยที่ตนเป็นคนสุดท้ายที่ถูกเอ่ยถึง แต่เลือกที่จะมองข้ามไป เพราะถึงอย่างไรคนที่อยู่กับเอนคิดูมากที่สุด....ในทุกๆ ที่และทุกเวลาอย่างมีสิทธิชอบธรรมทุกประการก็คือตนอยู่ดี



ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไร่ก็ตาม



เขาดื่มด่ำกับความรู้สึกเป็นเจ้าของที่ได้ครอบครองคนคนนี้ต่อเพียงผู้เดียวอย่างสุขใจยิ่ง เปลือกตาปิดลงช้าๆ หากเขายังคงสัมผัสได้ถึงฝ่ามือเรียวบางที่ลูบไล้เส้นผมอย่างอ่อนโยน



น่าแปลกเหลือเกิน...แค่ได้อยู่กับเจ้า

แม้แต่หญิงงามเมืองหรือผู้ใดก็ตาม ข้าก็ไม่ต้องการอีกแล้ว


[Fate Fic]...once upon a time...[BATH]


once upon a time

Fandom : Fate Series
[Fate/Zero,Fate/Strange Fake]

Rate :
R

Pairing:
Gilgamesh x Enkidu




. once upon a time .


::อาบน้ำ::




หลังจากลากเอนคิดูไปหานินสันด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจแล้ว กิลกาเมซก็พบว่าสภาพของร่างโปร่งบางที่โดนตนลากไปโน้นนี้มาแทบทั้งวันเริ่มฝุ่นจับไปทั้งตัวจนมอมแมมกว่าเดิมแล้ว ในฐานะที่เจ้านี้เป็นสหายของเขาแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยให้ 'สมบัติ' ของตัวเองแปดเปื้อนไปตลอดอย่างนี้แน่นอน!!



คิดได้ดังนั้นก็จับข้อมือของคนผมยาวให้เดินตาม เอนคิดูละล้าละลังกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย พระราชวังอันโอ่อ่า...สิ่งก่อสร้างแสนยิ่งใหญ่ซึ่งมีเครื่องเรือนของใช้มากมาย ล้วนประดับประดาด้วยอัญมณีเลอค่านานาชนิดตั้งเรียงรายเต็มไปหมด



เพดานสูงเหนือหัว ปิดกั้นท้องฟ้าจากสายตา เอนคิดูเพิ่งออกจากป่ามาไม่กี่แรมเดือน ยังไม่คุ้นชินกับความรู้สึกที่ห่างไกลกับธรรมชาติเช่นนี้มาก่อนเท่าใดนัก



ฝีเท้าชะงักลง...ด้วยแรงขืนที่มีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนที่จับจูงอยู่ ทำให้คนที่ก้าวเดินอยุ่เบื้องหน้าหยุดลงไปด้วย ร่างที่สูงกว่ากันไม่กี่มากน้อยหันมามอง แววตาสีแดงเลือดกร้าวกรุ่นด้วยความไม่พอใจ



หากเมื่อมองใบหน้าซื่อใส....บริสุทธิ์ไร้เดียงสายิ่งกว่าเด็กทารกนั้น กิลกาเมซกลับโกรธไม่ลง รอยยิ้มระอาใจผุดขึ้นบนริมฝีปากแทน



"เจ้าคงไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนสินะ แน่นอนล่ะ! ที่ใดในโลกใบนี้จะไปยิ่งใหญ่เท่าสรวงสรรค์อุรัคที่ข้าครองอยุ่ได้กันเล่า!!"



เอนคิดูเอียงคอ...ดวงตาสีทองวาวคู่นั้นบ่งบอกความสงสัย



"ครองเหรอ? เจ้าเป็นผู้ครองนครนี้? งั้นเจ้าก็เป็นหัวหน้าฝูงหรอกเหรอ?"



รอยยิ้มหยิ่งผยองปรากฏบนใบหน้าคม แม้จะไม่ใคร่จะพอใจกับคำว่า 'หัวหน้าฝูง' ของเจ้านี้ แต่จะอภัยให้ล่ะกัน เห็นแก่กับการที่เจ้าเป็นคนป่าไม่รุ้ประสีประสา



"ใช่!" กิลกาเมซตอบน้ำเสียงอันทรงอำนาจ แต่ก่อนที่จะพล่ามเอ่ยอะไรต่อมิอะไรมากกว่านี้ หางตาก็เหลือบเห็นข้ารับใช้หญิงสองสามนางเดินผ่านมาซะก่อน



"เจ้าขี้ข้าพวกนั้นน่ะ! ไปเตรียมข้าวของกับเครื่องแต่งตัวมา ข้ากับเจ้านี้จะไปโรงอาบน้ำ อย่าขาดแม้แต่สิ่งเดียวล่ะ!!"



สั่งความได้ดังนั้นก็จัดการลากเอนคิดูไปอย่างไม่รอคำตอบรับหรือปฏิเสธจากเจ้าตัวเช่นเคย ร่างโปร่งบางมองตามข้ารับใช้ที่ลนลานไปทำตามรับสั่งของกษัตริย์ตนด้วยแววตาไม่เข้าใจ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในวังแห่งนี้การกระทำมากมายของกิลกาเมซล้วนตรงข้ามกับ 'กษัตริย์ที่ดี' เช่นที่นักบวชหญิงผู้นั้นเคยกล่าวถึงไว้ซะหมด



เอนคิดูไม่รู้จักคำว่า 'เลวร้าย' รู้เพียงการกระทำของคนที่เดินนำอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องอย่างที่ผู้ปกครองที่ดีควรจะทำ หากสำหรับตนที่ไม่เคยได้รับไมตรีและมือที่ยื่นมาหาก่อน ก็คิดแค่ว่า...กิลกาเมซคงไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหรอก





















ตัวเขาถูกพามายังที่ที่กว้างขวาง มีแอ่งน้ำใสกินบริเวณเกือบทั้งหมดของสถานที่นั้น ในที่ตอนแรกหญิงรับใช้ที่เคยเห็นตรงเข้ามาช่วยปลดอาภรณ์ของร่างสูงข้างตัวก่อน มือใหญ่ปล่อยจากการเกาะกุม



เอนคิดูยืนงง....สงสัยยิ่ง หากไม่มีเวลาที่ว่านานนัก เพราะอีกคนก็เข้ามาหาเขาแทน คนผมยาวถอยกรูจนหลังแทบชนกำแพง



จะทำอะไรเหรอ?”



เอนคิดูถามเสียงสั่น... เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ที่นักบวชหญิงผู้นั้น อาบน้ำให้ เจ้าตัวมีเพียงขนยาวๆ ปกคลุมร่างกาย จึงไม่มีอาภรณ์ติดกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ต้อง ถอดเสื้อผ้าซึ่งเป็นการกระทำที่เจ้าตัวไม่เคยทำเองและให้ใครทำนอกจากนางผู้นั้นมาก่อน



อาการทั้งหมดอยู่ในสายตาราชาที่เฝ้ามองอยู่แต่แรก เขามองดูมันด้วยความขบขันเป็นยิ่งนัก



เจ้านี้นี่...ช่างสร้างความบันเทิงให้ข้าได้ตลอดจริง



กิลกาเมซคิด....ในขณะเดียวกันก็โบกเป็นสัญญาณให้พวกหญิงรับใช้ถอยออกไป พวกนางค้อมกายลงทำความเคารพ แล้วถอยไปแทบจะในทันทีด้วยความหวาดกลัว กิตติศัพท์ความแปรปรวณของกิลกาเมซเป็นที่เลืองลือ ตอนนี้ยิ้มแย้มอารมณ์ดี...หากครู่ต่อมาอาจเกรียวกราดรุนแรงได้เช่นกัน



ร่างสูงสืบเท้าหาคนที่ยืนกอดตัวเองห่างไปหลายช่วงตัว



มานี่สิเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเจือหัวเราะ พร้อมส่งมือให้ แล้วเจ้านั้นก็วางมือตนลงมาตามสั่งอย่างว่าง่าย



ฝ่ามือของเอนคิดูไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนมือสตรี....กลับกันจะหยาบกร้านกว่ามือของพวกทาสชั้นต่ำด้วยซ้ำ ผิดกับผิวขาวผ่องกับดวงหน้างดงามเหลือเกิน



กิลกาเมซค่อยๆ ออกแรงรั้งร่างของคนตรงหน้าให้ก้าวตามตนมาอย่างช้าๆ ดวงตาสีทองวาวกลมโตคู่นั้นฉายแววหวาดเกรงเล็กน้อยราวกับไม่แน่ใจ กระนั้นก็ยังยอมทำตามที่เขาต้องการ



ขาย่างลงไปตามขั้นบันไดที่ทอดลาดลงไปยังแอ่งน้ำ ถึงจะเดินกลับหลังแต่ก็ไม่สะดุดหรือช้าลงเลยสักนิด ตรงข้ามกับเอนคิดูที่เดินอย่างกล้าๆ กลัวๆ



กิลกาเมซยิ้มขำ... ดวงตาสีแดงเข้มเต้นระริกด้วยความชั่วร้าย ยามที่ก้าวลงมาลึกพอสมควรแล้ว มือหนาก็กระชากร่างโปร่งบางโดยแรง!



คนโดนแกล้งสะดุดล้ม ศีรษะจมดิ่งลงไปในน้ำพร้อมกับร่างทั้งร่างอย่างไม่ทันตั้งตัว มวลน้ำทะลักเข้าทางปากและจมูกจนสำลักไอหอบตัวโยนอย่างน่าสงสาร อาภรณ์สีขาวบางเปียกโชกแนบไปกับผิวเนื้อ ขับเน้นเรือนร่างเพรียวบางของผู้เป็นเจ้าของ 



ผู้กระทำหัวเราะลั่น สนุกสนานกับการกลั่นแกล้งนี่เป็นยิ่งนัก หากความคิดที่ว่าจะจับเจ้านี้ อาบน้ำก็ยังไม่หมดไป ทางแห่งความรื่นรมย์ลอยอยุ่ข้างหน้านี่เอง



ว่าแล้วก็ฉวยข้อมืออีกคนเข้ามาใกล้ แล้วโอบไว้ในอ้อมแขน ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมยาวรุงรังที่ระลงมาปรกใบหน้า เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นเพื่อรับสัมผัสนั้น



ดวงตาสีทองสบกับดวงตาสีแดงเข้ม....



หยาดน้ำเกาะพราวบนใบหน้าเนียนขาวผ่อง เส้นผมยาวเปียกชื้นแนบสนิทกับพวงแก้ม ริมฝีปากบางสีแดงอ่อนจางเผยอขึ้นเล็กน้อยจากความหนาวสั่น



กิล....เสียงเอ่ยเรียกสั่นพร่า...ราวเสียงครางเครือ



มือปัดปอยผมบางส่วนที่ระปรกใบหน้าเนียนอยุ่ ไล้ข้อนิ้วไปตามกรอบหน้าเรียว ก่อนจะค่อยๆ ประคองใบหน้าของคนตรงหน้าขึ้น ในดวงตาสีทองวาวอันไร้เดียงสาคู่นั้นสะท้อนเงาของคนที่โน้มลงมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ



ริมฝีปากบางถูกแนบจูบอย่างเสน่หาโดยที่เจ้าตัวไม่เข้าใจ ในทางปฏิบัติแล้ว จริงอยุ่เอนคิดูเคยร่วมหลับนอนกับนักบวชหญิง แต่ครั้งนั้นเขาแทบไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั้นเป็นการร่วมสังวาส...มีสัมพันธ์สวาทลึกซึ้งระหว่างชายหญิง



กิลกาเมซเอง.....ในตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน เขารู้สึกเพียงว่าอยากสัมผัสคนตรงหน้า.... เขาก็สัมผัส แล้วเมื่อได้สัมผัสแล้วก็อยากสัมผัสมากกว่าเดิม แต่ไหนแต่ไรเขาก็ตามทำใจชอบอยู่แล้ว



...ครั้งนี้เองก็เช่นกัน



และอย่างแรกเลยที่ทำคือกำจัดสิ่งเกะกะขวางมือตนเองออก เขาดึงรั้งอาภรณ์ยาวรุ่มร่ามที่เปียกโชกของเอนคิดูออกด้วยแรง อย่างที่เรียกได้ว่า ฉีกกระชากก่อนจะจับร่างโปร่งบางนั้นนั่งบนตักตนทั้งที่ยังพรมจูบ...คลอเคลียไม่ห่างใบหน้าเนียนกับลำคอขาวสักอึดใจ



ร่างสูงทิ้่งตัวลงกับขั้นบันไดพลางเอนกายพิงกับขอบแอ่ง ฝ่ามือใหญ่โอบแผ่นหลังร่างที่นั่งซ้อนให้เข้าชิดกว่าเดิม