วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

-KnB Fic- 夏影 -Natsukage- : Prologue :


Title : Natsukage
Fandom : Kuroko no Basket
Rate : PG-15
Pairing: Akashi Seijurou*Kuroko Tetsuya


Note :
บทนำก็สปอยซะแล้ว เป็นราวกลางๆ เรื่องของฟิคเลยค่ะ
ซึ่งตอนต่อไปจะเขียนโดยไล่เนื้อหาฟิคไปตามไทม์ไลน์สมัยเทย์โควนะคะ


คู่หลักเรื่องนี้เป็นแดงดำ แต่ในตอนต่อๆ ไปจะเป็นความสัมพันธ์ของคุโรโกะกับคิเซกิคนอื่นๆ


พูดได้ว่ากว่าจะเข้าไคลท์แม็กซ์ท่านอาคาชิเบิกเนตร


ฟิคเรื่องนี้ตั้งใจให้ดำเนินไปในทางออลดำน่ะค่ะ
มาครบทุกโมเม้นท์ค่ะเพราะเป็นแม่ยกคุโรโกะคุง ฮา





夏影


‘เงาฤดูร้อน’




: Prologue :
See,who I am.






ฝนหยุดตกไปนานแล้ว....
หากเขาก็ยังเดินกลับมาที่โรงยิม...อย่างไร้จุดหมาย สองขาพาร่างมาที่แห่งนี้ด้วยปราศจากกระบวนการคิดหรือสั่งการณ์ของสมองด้วยซ้ำ เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำที่พร่างพรมมาระหว่างทางกลับ
คุโรโกะ เท็ตสึยะ ไม่ได้หลบเข้าร่มหรือหลีกเลี่ยงการโดนเม็ดฝนแม้แต่น้อย ทั้งที่ปกติการใส่ใจสุขภาพของร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์พร้อม เป็นสิ่งที่ต้องจดจำและปฏิบัติในฐานะนักกีฬาแท้ๆ
หากเวลานี้....
หัวสมองกลับขาวโพลน...
มันฉายภาพและเสียงของอาโอมิเนะคุงซ้ำไปซ้ำมาแล้วกับเป็นเครื่องเล่นแผ่นที่ชำรุด
'ฉัน...ลืมมันไปแล้ว วิธีการรับลูกส่งของนาย'
ยิ่งกว่าน้ำเสียงอันสิ้นหวังและหมดเรี่ยวแรง ใบหน้าที่เศร้าหมองราวกับสูญเสียเป้าหมายของชีวิตไปทำให้เขาปวดใจเสียยิ่งกว่า
คนที่รักในบาสขนาดนั้น...
เคยมีรอยยิ้มที่เปล่งประกาย เป็นราวกับแสงสว่างคนนั้น
พังทลายลงเพราะความรักที่มีให้บาส
หยดน้ำไหลผ่านดวงตาสีน้ำเงินเข้ม.... โดยที่เขาไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าสิ่งที่กลิ้งไหลจากดวงตาคู่นั้นเป็นสายฝนที่ร่วงหล่นหรือน้ำตาของอาโอมิเนะคุงกันแน่
ทำได้แต่เพียงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง สิ้นไร้ถ้อยคำจะเอื้อนเอ่ยไปโดยไม่อาจทำอะไรได้เลย
เขา....
ทำได้แค่ดูคนตรงหน้าแตกสลายลงไป



ในโรงยิม...มืดสลัวไร้แสงไฟ ทุกคนคงกลับไปหมดแล้ว
จะเหลือก็เพียงแค่...
"อาคาชิคุง"
เขาส่งเสียงทักออกไป ใบหน้าคมผินกลับมามอง คุโรโกะไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่แผ่นหลังที่เห็นเมื่อครู่ดูราวกับหลุมลึกสีดำสนิทที่เหมือนกับจะดูดอากาศเข้าไป
"มาสายนะ... ทุกคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันแล้ว"
หากน้ำเสียงทุ้มนุ่มแสนคุ้นก็ฉุดเขากลับมา มือเรียวยาวโยนผ้าขนหนูที่ถือไว้มาให้และสั่งให้เช็ดเนื้อตัว กระชับตามนิสัยรอบคอบ ด้วยเกรงว่าเขาจะเป็นป่วยไข้ไปซะก่อน
ฝ่ามือประคองผ้าขนหนูผืนนิ่มยกซับไปตามใบหน้าและผิวกาย ดวงตาสีฟ้าอ่อนหลุบต่ำไม่กล้าสู้หน้า รับรู้ได้ถึงสายตาเคร่งขรึมที่จ้องมองมา หากแต่ก็สิ้นคำจะบอกกล่าว จนกระทั่งอีกฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน
"ปฏิกิริยาของเธอ... มันบอกผมเลยว่า 'ไม่สำเร็จ' สินะ"
กัปตันคนปัจจุบันแห่งชมรมบาสเทย์โควเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ยากจะคาดเดาอารมณ์
ภาพใบหน้าที่สิ้นหวังนั่นผุดขึ้นมาอีกครา มันหนักอึ้งจนเขาทำได้เพียงเสสายตาลงต่ำ และตอบรับไปสั้นๆ
ใจหวังลึกๆ... ลึกลงไปว่าคนตรงหน้าอาจจะมีหนทางให้อาโอมิเนะคุงกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ประโยคที่ออกมาจากปากคนคนนั้นก็ฉุดเขาให้ตกลงไปในหล่มแห่งความสิ้นหวังอีกครั้ง
"ช่วยไม่ได้ล่ะน่ะ"
อาคาชิพูดราวกับไม่ใส่ใจ และยิ่งสำทับความจริงจังของถ้อยคำที่กล่าวออกมาไม่ใช่สิ่งที่หูฝาดแว่วไปเองอีกประโยคว่า
"ตัดใจเรื่องไดกิซะ"
ใบหน้าขาวซีดเงยขึ้นสบกับดวงตาสีแดงเข้มที่มองตรงมา นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนสั่นระริกและจ้องเขม็ง ปรารถนาให้ตนได้ยินผิดไป
"แต่.. อาคาชิคุงเป็นคนส่งผมไปตามเขา"
ไม่... มันต้องไม่เป็นแบบนี้
อาคาชิคุงน่ะ.. อาคาชิคุง...
"ใช่... มันเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับเขา"
หากเสียงตอบกลับเป็นคมมีด... วาจาต่อมาก็เป็นดังปลายของมีดที่ค่อยๆ กรีดบาดลงมา
"จานที่แตกไปครั้งหนึ่ง จะไม่เป็นดังเดิม ถึงจะซ่อมมันได้ หรือยามจำเป็นผมจะเอากลับมาใช้ได้ก็ตามที"
"แต่..."
ทิ้งช่วงเอ่ยเล็กน้อย ราวกับจะพัก เขาหวังให้จังหวะหนึ่งมันเป็นความลังเล
เปล่าประโยชน์สิ้นดี...
เขาควรจะรู้ดีว่าอาคาชิ เซย์จูโร่ไม่มีคำคำนั้นในสมอง
สิ่งที่ถูกเอื้อนเอ่ยคือประกาศิต เป็นคำสั่งที่ผ่านการไตร่ตรองและเลือกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
"ไม่จำเป็นต้องสนใจอีกต่อไปแล้ว เขายังมีประโยชน์ให้ใช้ได้อีกเยอะ"
"ทำได้ดีมาก"
เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง คำชมที่เขาไม่ต้องการ ฝ่ายผู้ฟังทำได้เพียงเอ่ยเรียกชื่อนั่นเสียงพร่า
เสียใจ.... สิ้นหวัง.... สับสน ตกตะลึง....
ความรู้สึกมากมายผสมปนเปจนใบหน้าที่นิ่งเฉยเป็นนิจราวหน้ากาก ได้แตกหักและแสดงความตระหนกออกมาในครานั้นเอง
"นาย...เป็น....ใคร?"
ผมสีแดง นัยน์ตาสีแดงเช่นเดียวกัน...
ไม่สิ อีกข้างเป็นสีทอง...
สีทองราวกับทองคำในเตาหลอม
ทำไมมองผมด้วยสายตาแบบนั้นล่ะเท็ตสึยะ?”
ที่ร้อน....
และลุกไหม้เสียยิ่งกว่าเปลวเพลิงสีแดงฉาน
น้ำเสียงทุ้มนุ่มกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
"ผมก็คือผมไง อาคาชิ เซย์จูโร่ กัปตันของเธอ"
คล้ายกับจะเป็นคนเดิมเช่นก่อนหน้านี้
แต่ไม่..
รอยยิ้มบนเรียวปากนั่นราวกับวิปลาสไปแล้วก็ไม่ปาน สติอันน้อยนิดสั่งให้สองขาพาร่างตนถอยห่างออกมาอย่างไม่รู้ตัว
แสงจันทร์นวลอ่อนสาดไล้ลงบนพื้นโรงยิมไร้ผู้คน เหลือเพียงเขาและคนตรงหน้าที่จับจ้องกันและกัน
ความมืดมิด...และบรรยากาศหนักอึ้งครอบคลุมไปทั่วบริเวณ
หากสีแดงเพลิงกับสีทองที่ลุกวาวเรื่อเรืองของดวงตาต่างสีคู่นั้นกลับโดดเด่นอย่างน่าใจหาย
คุโรโกะ เท็ตสึยะคิดมาตลอดว่า
ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆของคนตรงหน้าคงเป็นเรื่องที่เขาคิดไปเอง ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือเมื่อครู่ก็ตาม
แต่ไม่ใช่แล้ว....
นี่ไม่ใช่อาคาชิคุงที่เขารู้จัก
มันไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความตื่นตระหนกกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่กระทันหันจนไม่อาจตั้งตัว ในตอนนั้นเขายังจำได้ดีว่าตนเองตกใจจนลืมวิธีกรีดร้องด้วยซ้ำไป
"หือ? กลัวผมเหรอเท็ตสึยะ?"
ขาพาร่างตัวเองถอยห่างจากอีกฝ่ายอีกก้าว
กัปตันแห่งเทย์โควจุดยิ้มที่มุมปาก ราวกับสมใจในบางสิ่ง
"น่าแปลกนะ..."
ปลายนิ้วเรียวยาวเอื้อมหมายจะแตะใบหน้า เขาปัดทิ้งทันทีด้วยสัญชาตญาณ
"ที่ใบหน้าของเธอ แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้"
แต่เมื่อ 'จักรพรรดิ' เริ่มขยับ ผู้ต่ำต้อยกว่ามีหรือจะสามารถขัดขืนได้ อาคาชิคว้าจับมือที่แสดงอาการปฏิเธอย่างโจ่งแจ้งนั่นไว้
สัมผัสของมันไม่ได้นุ่มนิ่มอะไร ออกจะหยาบกระด้างและแข็งไปในบางจุดที่ใช้งานสม่ำเสมอเช่นเดียวกับนักกีฬาที่ทำการฝึกฝนทั่วไป
หากนั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญหรือสิ่งที่ต้องใส่ใจ ต่อดวงตาที่เปิดเปลือยถึงปฏิกิริยาและการแสดงออกของทุกอวัยวะในร่างกาย
ลมหายใจที่หอบกระชั้น นัยน์ตาที่สั่นสะท้าน สองมือที่ระริกไหว และดวงใจที่เต้นระรัวฉูบฉีดด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ผมเห็น...ทั้งหมดนั่น
ง่ายดายยิ่งกว่าจับกระต่ายซะอีก
เพราะนี่เป็น 'ของที่อยู่ในอุ้งมือ' แล้ว

TBC.

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

[ฟิคสด Magi]Another Story -2 Week Later- [Kouen x Aladdin]

Title : Another Story
Fandom :Magi
Rate : PG-15

Pairing: Ren Kouen x Aladdin
 Note :
มโนต่อจากฟิคสดซินอาลีของ @Blood_hana เป็นเรื่องของฝั่งอาละดินค่ะ
 ของบลัด >> Wedding Story
ฟิคสดจากที่ฟลัดๆ ไว้ในทวิตเตอร์ ภาษาไม่สละสลวย คิดอะไรได้ก็แต่งเป็นมุกไปเรื่อยๆ นะคะ
ปล.อาละดินในฟิคนี้สัก 14 ล่ะค่าา
ขอไทม์สคิปนะะคะ ไม่ไหวแระ อยากแกล้งเสี่ยยยยยยยยยย
ปล.ถ้าไฟลุก เดี๋ยวคงได้เห็นตอนหก 55555555555+
ช่วงนี้ยัยหนูกินเก่งเป็นพิเศษ ปกติก็แทบเขมือบอาหารหมดโต๊ะอยู่แล้ว นี่มาขอเติมตลอด พอห้ามก็ดันโมโห หอบถาดไปกินห้องโคฮาหน้าตาเฉย เลยต้องยอม
นานเข้าชักเริ่มเอะใจ จากวันนั้น แล้วก็พิธีแต่งตั้งมเหสีก็หลายอาทิตย์ แล้ว นี่…คุณลุง ทำไมต้องให้หมอตรวจด้วยอะ? เด็กสาวนั่งแกว่งขารอในห้อง
จู่ๆ กินเยอะผิดปกติมันน่าสงสัยเป็นอะไรร้ายแรงขึ้นมาจะได้หายทัน อาละดินเบ้ปาก คิดมากแก่เร็วนะฮะ ผมวัยกำลังโตนะ กินได้เรื่อยๆ อะแหละ
หมอหลวงจับชีพจรบนช้อมือเล็ก ตรวจโน้นนี่นิดหน่อย ใบหน้าหมอสูงวัยทะมึนเล็กน้อย ยิ่งเห็นหน้าใสๆ ของเด็กสาวเทียบกับเจ้านายยิ่ง….
คุณหนูท่านนี้… กระดากปากเกินจะเรียกพระมเหสีกับเด็กตัวนิดเดียว ตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าๆ แล้วขอรับ โคเอ็นเงิบกิน บอกไม่ถูกว่าควรดีใจหรืออะไร
ฝ่ายเด็กที่กำลังจะได้เป็นแม่คนตั้งแต่13-14กลับเอียงคอมองหมอหลวง คุณตาฮะ… ตั้งครรภ์คืออะไรเหรอ? ทำเอาหน้าหมอทะมึนไปอีกครึ่งซีก
เอาเป็นว่า..เดี๋ยวข้าจะจัดยาแล้วก็บอกพวกข้ารับใช้เรื่องอาหารการกินไว้แล้วกันนะขอรับท่านโคเอ็น หมอหลวงกุมขมับเดินเซๆ ออกไป ทิ้งปัญหาใหญ่ไว้
จะอธิบายยังไงให้เด็กนี้เข้าใจ? ทั้งที่เรื่องอื่นฉลาดเป็นกรด แต่เรื่องพื้นฐานทั่วไปของมนุษย์นี่ไร้เดียงสายิ่งกว่าเด็กสามขวบซะอีก
เลยพลัดไปก่อน…รอให้ท้องนูนขึ้นมากกว่านี้ค่อยว่ากัน ตอนนี้ก็แค่..สั่งห้ามอะไรที่มันน่าจะอันตรายก็พอ หมอบอก3เดือนแรกที่สำคัญมาก ห้ามกระเทือน
มือหนาจับไหล่เล็กมั่นมองตาโตใสแจ๋วอย่างจริงจัง ห้ามวิ่งเล่น ห้ามไปปีนต้นไม้ในสวน ห้ามไปกินอะไรแปลกๆ ห้ามไปทดลองเวทมนตร์ ห้ามฯลฯเท่าที่คิดได้
ง่า… ผมก็เป็นหงอยพอดีคุณลุง ไอ้การตั้งครรภ์นี่มันเป็นโรคร้ายแรงขนาดนั้นเลย ไม่ใช่…แต่มันเป็น พอจะอธิบายก็มีคนเข้ามาซะก่อน ฮาคุเอย์สตั้น
อาละดินซังท้องเหรอคะท่านโคเอ็น? ถึงจะรับรู้กันทั่วว่าเด็กสาวเป็นมเหสีของโคเอ็นไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ทำใจได้ยากอยู่กับการที่เด็กตัวแค่นี้จะ..
ทำลงไปได้ยังไงคะ/ครับ? ฮาคุเอย์และหมอหลวงคิดในใจเหมือนกันอย่างพร้อมเพรียง อาละดินซังคะ เด็กสาวหันมอง ฮะพี่ฮาคุเอย์ ช่วงนี้ไปนอนกับพี่ก่อนนะคะ
อาละดินยิ้มแป้น ชอบอยู่แล้วนอนกับพี่สาวอึ๋มๆ ได้เลยฮะ คุณลุงตัวแข็งจะตาย หนักด้วย เวลานอนน่ะ… โคเอ็นพุ่งมาปิดปากแทบไม่ทัน
ฮาคุเอย์มองลุกพี่ลูกน้องด้วยสายตาเย็นชากว่าเดิม นี่แสดงว่า…เกือบทุกคืนเลยเรอะ! ตลอดมาที่ไม่สนใจพวกนางสนมจริงๆเพราะรสนิยมอย่างนี้สินะ
จากนั้นก็แยกห้องนอน แต่น่าแปลก..อาจเพราะเป็นท้องสาวหรืออะไร แต่อาละดินไม่มีอาการแพ้ท้องเลยแม้แต่น้อย แค่กินเยอะขึ้นเท่านั้นเอง นอกนั้นปกติดี
แข็งแรงสุดๆ ในขณะที่ฝ่ายเจ้าชายลำดับที่หนึ่ง ทั้งคลื่นไส้ เวียนหัว โน้นก็กินไม่ได้ นี่ก็กินไม่ได้ เหม็นพาลจะอ้วก แถมยังโปรดของเปรี้ยวอีกตั้งหาก
เดินตรวจความเรียบร้อยทหารก็พาลจะเป็นลม เดือดร้อนให้ลูกน้องคนสนิทต้องพาไปพัก สร้างความอเนจอนาถ(ปนสะใจ)ใจแก่บรรดาผู้ที่รู้ตื้นลึกหนาบางยิ่งนัก
แถมที่ร้ายกว่านั้น… เหมือนจงใจแกล้งกัน อา..อ้าปาก โคฮาพูด ก่อนจะป้อนสตรอเบอร์รี่ลูกฉ่ำให้เด็กสาวที่นั่งรอตาใส
เจ้าฮาคุริวก็ตัวดี ได้ทีฮาคุเอย์ฝากฝัง ทั้งที่ยัยหนูนั่นก็เดินเหินได้ปกติ แต่เดี๋ยวก็อุ้ม เดี๋ยวก็โอบประคอง ผลัดกันเอาใจยังกับจะตีท้ายครัว
ไม่เห็นนูนขึ้นมาเลยฮะ พี่ฮาคุริว โคฮาคุง มือลูบท้องป้อยๆทำหน้ามุ่ยคิ้วขมวด เห็นคุณตาหน้าซีดๆคนนั้นบอกว่าจะพองขึ้น แล้วสักพักจะมีเด็กออกมาล่ะ
ประโยคนี้ทำเอาสองหนุ่มหน้าม้านไปนิด ใช่…ยัยเปี๊ยกนี่เป็นของพี่เอ็น…ไม่ใช่ของเรา ปย.หลังฟ้องบนหน้าทั้งคู่ จู่ๆซึมซะงั้นโคฮาคุงพี่ฮาคุริว
พอดีเห็นโคเอ็นเดินผ่านมา ความที่ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์ก็วิ่งไปหาแบบไม่คิดอะไร จนให้คนอายุมากกว่าเอ็ด บอกกี่ครั้งแล้วว่าช่วงนี้ห้ามวิ่ง
ปากดุแต่มือลูบศีรษะเล็กที่เงยหน้ามองยิ้มสดใสให้ คิดถึงจนทนไม่ไหว รู้อีกทีก็จับอุ้มมานั่งตักหน้าตาเฉย หลัง เริ่มไม่แคร์สายตาลูกน้อง ช่างมัน!
สองเจ้าชายรู้สึกตาร้อนๆ ทั้งคู่เลยต้องหลบฉากหนีไป ขอตัวนะท่านพี่/ท่านโคเอ็น ทิ้งให้อยู่กันสองคนบนศาลากลางสวน
คุณลุงหน้าซีดๆ นะฮะ ไม่สบายเหรอ โคเอ็นถอนหายใจเฮือก บอกให้เรียกชื่อเฉยๆ เด็กน้อยหน้ามุ่ย ชื่อคุณลุงเรียกยากง่า แต่ตาดุก็ยังจ้อง
อ๋อ..รู้แหละว่าเรียกไง อาละดินยิ้มร่า งั้นผมเรียกแบบโคฮาคุงนะฮะ พี่เอ็นไง! เด็กน้อยยิ้มกว้างจนตาหยี เล่นเอาคนโดนเรียกพี่ไม่ทันตั้งตัวตกใจ
จากคุณลุงเป็นพี่… เด็กนี้ใช้มาตรฐานอะไรในการเรียกคนอื่นกัน? คิดแล้วเริ่มปวดหัวแปลบๆ อา… ตัวก็ร้อนนี่ฮะ ทำไมหน้าซีดอีกแล้วอะ
มือเล็ก… แต่เย็นเล็กน้อยทาบทับบนหน้าผากกว้าง ถึงจะทำให้สดชื่นขึ้น แต่ก็เกรงว่าจะทำให้เจ้าตัวเป็นหวัดไปซะก่อน เลยถอดเสื้อคลุมมาห่ม
ขนาดตัวที่ต่างกันเกินไป ชายเสื้อยาวลงมากรุมเท้ารุ่มร่ามจนยัยเด็กซนนี้ต้องพาไปเกี่ยวอะไรให้หกล้มแน่ๆ มือหนาจับรวบพับเป็นทับๆก่อนจะช้อนใต้ขา
ขึ้นมาอุ้มไว้กับตัว คุณลุงอุ้มดีกว่าจริงๆด้วย เด็กสาวยิ้มหวาน ขณะขยับตัวให้นั่งสบาย ทำไมล่ะ…เจ้าฮาคุริว มันอุ้มยังไง? ลองถาม แต่คำตอบ…
พี่ฮาคุริวช้อนใต้ขาสองข้างเลยฮะ ผมมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลยง่ะ เห็นแต่หน้าพี่เขา ไม่สนุกเลย..คุณ.. ตาดุจ้อง พี่เอ็นอุ้มสูงกว่าเห็นไกลกว่าแหละ
ไม่ชินเลยอ่าา เรียกแบบเดิมไม่ได้เหรอฮะ อาละดินลองอ้อน แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล กว่าจะให้เปลี่ยนคำเรียกได้ เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆ
คงอีกนานกว่าจะทำตัวให้เหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดา
และหลังจากนั้นอีกเกือบปี เร็น คาโฮ ก็ได้ลืมตาออกมาดูโลก นัยน์ตาสีเงินเข้มเช่นเดียวกับเมไจผู้เป็นแม่ ในขณะที่เส้นผมเป็นสีแดงเพลิงแบบโคเอ็น เค้าคมแบบพ่อมากกว่าแม่
แต่กลับติดอาละดินแจ ไม่ยอมห่างเลย ถ้าไม่เห็นก็จะร้องจ้าขึ้นมาทันที และพอเห็นหน้าโคเอ็นยิ่งร้องหนัก เลยกลายเป็นกว่าตลอดช่วงเดือนแรกๆ นี่แทบไม่ได้เห็นเด็กสาวเลย
ท่านผู้บัญชาการหงุดหงิดจนก่อเพลิงพิโรธเป็นประจำ หน้าทะมึนโฉดจนลูกน้องผวาถอยกรูไม่กล้าสู้หน้าสักคน
ต้องอาศัยเวลากว่าครึ่งปีคาโฮจะห่างคุณแม่ตัวน้อยได้ และเลิกร้องไห้จ้าเมื่อเห็นเขา หากตาสีน้ำเงินใสนั่นกลับจ้องแบบเย็นชาแทน
ตาขวางแต่เล็กแต่น้อยแฮะ เหมือนเจ้าเลยอะโคเอ็น จูดัลตบไหล่ป๊าบๆ เแซว
ไม่ต้องถามเลยว่า… ห่างกันเกือบปี พอได้มเหสีตัวน้อยมาร่วมเตียงเจ้าชายรัชทายาทจะแสดงความคิดถึงขนาดไหน
และไม่ผิดจากการคาดการณ์ของใครหลายคน หลังจากนอนกอดเมไจสาวอยู่เป็นสามวัน โดยคนไม่กล้าย่างเท้าไปเรียกหาปรึกษางาน
มเหสีก็ตั้งครรภ์อีกรอบ.. แม้จะดู ‘โต’ ขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อเทียบกับองค์ชายอันดับหนึ่งที่ปาไปจะสามสิบได้แล้ว ก็ยังดูเด็กกว่าโขอยู่ดี
คาโฮเลยได้น้องสาวที่ห่างกันไม่ถึงปีโดยปริยาย
#จบเหอะ 555555555555555555
แถม
夏帆 Kaho คาโฮ – ชาย
麒麟 Kirin คิริน – หญิง
紅葉 Kureha คุเรฮะ – ชาย
คุเรฮะ ใบไม้สีแดง
คุเรฮะที่ใช้ตัวคันจิตัวโมมิจิ (紅葉)
แฝดหญิง
花恋 Karen (คะเรน)
歌音 Kanon (คะนน)