Until…now.
Fandom : Kuroko no Basket
Rate : PG-15 > NC
Pairing:
Akashi Seijurou x Kuroko Tetsuya(C) , Himuro Tatsuya x
Kagami Taiga(C)
Genre : AU, Drama , NTR(เล็กน้อย?)
Note :
เรื่องนี้เป็นกึ่งๆ
แนว NTR มีการสลับคู่ และน้องครก. ร้ายอยู่พอสมควร
มีการพูดถึงความสัมพันธ์ทางกายในเชิงชู้สาวแนวคู่นอน
ใครไม่ชอบแนวนี้ก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
และที่สำคัญเป็นแนวฟิคสดที่มีการวางโคร่งไว้เพียงคร่าวๆ
คิดอะไรหรืออย่างแต่งอะไรจะเป็นตามใจฉันคนแต่งนะคะ
ฮา
Author by Lina(ChaCHa)
Story by kyokikuma
-06-
คราวนี้เธอฝัน...
ไม่สิ...
นี่ไม่ใช่ความฝัน
แต่เป็นความทรงจำก่อนเก่าของเธอตั้งหาก
วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของเธอกับอาคาชิคุง
แรกเลยเริ่มที่จูบ หลังจากการซ้อมในห้องเก็บของของคืนวันหนึ่ง
... จูบที่ไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดขึ้น
...
โรงเรียนเงียบสงบ ไร้สรรพเสียงและสิ่งมีชีวิตใด
ไฟจากโรงยิมที่ถูกเปิดใช้งานล่วงเวลาโดยการขออนุญาตเป็นพิเศษ ค่อยๆ
ดับลงทีละดวงสองดวง
เด็กสาวในชุดเสื้อยืดตัวหลวมและกางเกงขาสั้นทะมัดทะแม่ง
ทยอยเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ในการฝึกซ้อมให้เป็นระเบียบอย่างตั้งใจ
ซึ่งโดยปกติเเล้วคนที่รับหน้าที่นี้ในแต่ละวันจะมีกันอยู่หลายคน
เพื่อแบ่งเบาภาระกัน
และอีกนัยหนึ่งมีไว้เผื่อภารโรงหลงหูหลงตาไปแล้วเผลอล็อคประตูห้องชมรมขังคนไว้โดยไม่ระวัง
อย่างเช่นที่เคยเป็นมาแล้วในรุ่นก่อนๆ
คุโรโกะ
เท็ตสึยะรวบเรือนผมยาวประบ่าเกล้าขึ้นเป็นทรงสูงเพื่อความคล่องตัว
ปอยผมสีฟ้าอ่อนแกว่งไหว
ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาลที่โรยตัวรายรอบดูราวกับลูกไฟวิญญาณก็ไม่ปาน
เกิดเป็นข่าวลือแปลกๆ ว่าในโรงยิมของชมรมบาสเก็ตบอลมีผีมาฝึกซ้อม
เด็กสาวคร้านจะใส่ใจกับถ้อยคำลืออันแสนไร้สาระนั่น
แถมหัวข้อนี้ยังเป็นที่นินทาคุยฟุ้งของเหล่าสาวๆ ผู้จัดการชมรมให้ไปอำคนอื่นกันอีก
จึงไม่ได้สนใจจะไปแก้ต่างอะไร ถึงอย่างไรซะก็คงไม่มีคนเชื่อมโยงกับสาวจืดจาง
ไร้ตัวตนเช่นเธออยู่แล้ว
ฝีเท้าแผ่วเบาก้าวเดินพร้อมกับหอบถุงตาข่ายใส่ลูกบาสในอ้อมแขนเดินอย่างระมัดระวัง
ความเงียบสงัดชวนให้อ้างว้างดำเนินไป
และคงเป็นอย่างนี้อีกสักพักจนกว่าเธอจะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเสร็จสิ้น
กระทั่ง...
เสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูใหญ่โรงยิมดังขึ้น
เสียงแหลมค่อนข้างแสบแก้วหูเรียกสายตาเด็กสาวไปยังทิศทางนั้นในทันที
สถานการณ์เช่นนี้เป็นผู้หญิงคนอื่นคงกลัวจนร้องกรี๊ดลั่นไปแล้ว
แต่ไม่ใช่กับคุโรโกะ เท็ตสึยะ
เด็กสาวหันไปพิจารณาต้นกำเนิดเสียงอย่างมีสติด้วยดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่โตแสนเรียบเฉย
"อาคาชิคุง"
แม้ไม่แน่ใจกับชื่อที่เรียกออกไปนัก
แต่คงเป็นใครอื่นนอกจากกัปตันคนเก่งแห่งชมรมไปไม่ได้
และสิ่งที่ยืนยันว่าความคิดนี้ของตนถูกต้องคือใบหน้าคมที่แลเห็นได้จากเศษเสี้ยวของแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามา
"คุโรโกะคุงเองหรอกเหรอ?"
น้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงความสงสัยเอ่ยถาม พร้อมก้าวเข้ามาในโรงยิม
แววตาสีแดงเข้มคู่นั้นฉายรอยสงสัย ก่อนเกลื่อนหายไป
"ค่ะ ฉันกำลังเก็บอุปกรณ์ฝึกซ้อมอยู่"
เจ้าของชื่อเอ่ยตอบ
สมองแล่นคิดไปถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายยังคงอยู่โยงถึงตอนนี้
ปกติแล้วอาคาชิคุงจะกลับบ้านค่อนข้างตรงเวลา เนื่องด้วยธุระทางบ้านที่เข้มงวด
หากในระยะหลังๆ
ทั้งการขึ้นเป็นกัปตันและประธานนักเรียนคงมีงานและสิ่งต่างๆ
หลายอย่างที่ผลัดเปลี่ยนมาสู่มือของเขา ต่อให้เก่งเกาจเช่นไร
การงานที่ต้องเกี่ยวพันกับคนหลายคนย่อมไม่อาจเสร็จสิ้นได้ในอาทิตย์สองอาทิตย์
ช่วงนี้จึงมักได้เห็น 'กัปตันแห่งชมรมบาสเทย์โค'
ทำงานล่วงเวลาบ่อยครั้ง สะสางงานเอกสารของทั้งสภานักเรียนและชมรม
แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนอยู่ดึกถึงเพียงนี้
"นี่ก็ดึกมากแล้ว ทำไมมีเธออยู่คนเดียว
ผู้จัดการคนอื่นไปไหนกันซะล่ะ"
เด็กหนุ่มถาม
และก้มลงเก็บลูกบาสที่กลิ้งไหลจากอ้อมแขนเธอไปถือว่า พลางดุนหลังอย่างสุภาพไปทางห้องเก็บของที่ไม่ไกลนัก
"ให้ผมช่วยเถอะ"
อีกฝ่ายเสนออย่างมีน้ำใจ
และซักถามความเป็นมาว่าทำไมเธอถึงยังอยู่ในโรงเรียนดึกดื่นป่านนี้
คุโรโกะครุ่นคิดถึงสาเหตุสักพักก่อนจะเลือกใช้คำตอบอย่างระมัดระวังว่า 'ทุกคนมีธุระต้องไปทำกันกะทันหันค่ะ'
ซึ่งถูกครึ่งผิดครึ่ง
จริงๆ เพราะสาวๆ
เหล่านั้นมีนัดบอดไปเดทกันที่ร้านคาราโอเกะ
ส่วนโมโมอิซังที่มักอยู่ช่วยเธอนั้นลากอาโอมิเนะคุงไปซื้อของ
โดยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะมีคนทยอยปลีกตัวหายไปทีละคนสองคน
สีหน้าลำบากใจและด้วยความที่ไม่ได้มีธุระอะไรเป็นพิเศษในช่วงเย็น
ทำให้เธอต้องออกปากรับอาสาทำหน้าที่ทั้งหมดนี้แทน
หากไม่คิดว่ามันจะกินเวลาจนมืดค่ำถึงเพียงนี้
คุโรโกะบอกความจริงไม่หมด หากเชื่อว่าอาคาชิคุงต้องปะติดปะต่อคาดเดาใจความทั้งหมดได้เอง
ทั้งสองคนช่วยกันเก็บอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ อย่างเงียบงัน ไม่มีบทสนทนาใดอีก แต่เด็กสาวกลับรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกจ้องอย่างอย่างพิจารณาด้วยสายตาของใครอีกคนที่อยู่ด้วยกัน
และเมื่อมีคนมาช่วยเพิ่ม
งานจึงได้เสร็จสิ้นเร็วขึ้นกว่าการทำคนเพียงลำพัง
ครู่เดียวทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกเก็บและจัดวางในที่ทางของมันอย่างเรียบร้อย
รอเวลาที่ห้องนี้จะถูกเปิดอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
หยาดเหงื่อไหลรินตามขมับ อากาศในช่วงนี้เริ่มอบอ้าวขึ้นเป็นสัญญาณสู่ช่วงฤดูร้อน
แม้จะมีสายลมเย็นๆ พัดผ่าน
หากในที่อับที่ประตูหน้าต่างได้ถูกปิดลงกลอนเกือบหมดเสียแล้ว
ก็แทบไม่มีอากาศให้ถ่ายเท
มือขาวบอบบางจับปลายผ้าขนหนูที่เด็กหนุ่มพาดคล้องไว้กับคอขึ้นซับเหงื่อให้
ในดวงตาสีฟ้าอ่อนแสนเฉยชาราวกับสายน้ำอันสงบนิ่งนั่น ทำให้ใจเต้นอย่างประหลาด
อาคาชิค้นพบเป็นครั้งแรกว่า...
ริมฝีปากของหญิงสาวให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มถึงเพียงนี้
เขา... มีคนเสนอตัวและทอดกายให้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวหรือเด็กสาวในวัยเดียวกัน
ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากได้ฝันตื่นหนึ่งจากเขาด้วยกันทั้งสิ้น
แต่เด็กหนุ่มไม่ชอบของไร้คุณภาพ
สิ่งที่ได้มาง่ายดายเกินไป มักมีราคาถูกและไม่ถูกใจ
เร็วกว่าความคิด เขารั้งร่างเล็กบางที่เข้ามาใกล้
มือเกาะกุมข้อแขนบอบบางที่ยกค้างใบหน้า
คุโรโกะ เท็ตสึยะเม้มริมฝีปากแน่น
แต่พอรับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่โอบประคองแผ่นหลังให้แนบชิดกับลำตัวของอีกฝ่ายก็เผลอสะดุ้งด้วยความตกใจ
เป็นอันเปิดโอกาสให้คนที่จ้องรออยู่รุกล้ำเข้ามา
เด็กสาวตื่นตระหนก ค่อนไปทางตกใจกลัวมากกว่าจะคล้อยตาม
หากแต่การรุกเร้าแสนอ่อนโยนและหลอกล่อเชิญชวนให้ตกหลุมพรางของคนเจ้าเล่ห์กว่า
ทำให้เพียงไม่กี่อึดใจตัวเองก็เบียดกายแนบชิดกับร่างอีกฝ่ายแล้ว
แผ่นอกที่วางมือจิกเกร็งลงไปแน่นตึงกว่าที่ตาเห็น
มาจากการเล่นกีฬาและกิจกรรมอื่นอีกมากมายที่คนตรงหน้าทำเป็นประจำ
เสียงชื้นแฉะและริมฝีปากที่ประกบจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำให้เธอต้องหอบหายใจอย่างอ่อนแรง และในขณะที่คิดว่าจะหมดแรงลงไปทั้งอย่างนี้
อ้อมแขนของคนที่ประคองก็โอบรัดที่ช่วงเอวไว้อย่างพอดิบพอดี
ลมหายใจอุ่นร้อนระริดข้างขมับ
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ที่ผมซึ่งมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อยยุ่งเหยิง
จนที่รัดคลายตัวออกเอง ทิ้งให้เส้นไหมสีฟ้าอ่อนจางหล่นร่วงมาคลอเคลียลาดไหล่บาง
ล้อมกรอบใบหน้าขาวจัดที่สองข้างแก้มกำลังขึ้นสีแดงก่ำเช่นเดียวกับริมฝีปากบางที่ช้ำเล็กน้อย
"นี่เป็นจูบแรกของคุโรโกะคุงเหรอ?" อาคาชิเอ่ยล้อ
ดวงตาสีแดงพราวระยับ
ผิดกับใบหน้าที่ระบายรอยยิ้มอ่อนโยนระคนเอ็นดู
จนเด็กสาวผู้นึกอยากถองศอกใส่รู้สึกเหมือนตัวเองตาพร่าไปชั่วขณะหนึ่ง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นอาคาชิคุงยิ้ม
แต่ที่เคยเห็นไม่ใช่รอยยิ้มที่อ่อนโยนขนาดนี้
เด็กสาวลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองยังอยู่ในอ้อมกอดอีกฝ่าย
ใบหน้าคมคายสมบูรณ์แบบที่หล่อเหลาราวเทพบุตรให้สาวๆ เก็บไปนึกฝันโน้มลงมา
คุโรโกะเชื่อมั่นในจิตใจที่เข้มแข็งของตัวเองเสมอมาว่าไม่เคยหวั่นไหวกับสิ่งใดมาก่อน
แต่ในระยะที่สานสบดวงตากันและกันใกล้ชิดจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายเช่นกัน
เธอพบว่าตัวเองต้องมนตร์ในดวงตาสีแดงคู่นั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เราสองคนจูบกัน... ครั้งแล้วครั้งเล่า...
สัมผัสและแลกเปลี่ยนถึงลมหายใจฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่รู้เวลา
นิ้วเรียวยาวเกลี่ยปอยผมสีอ่อนที่ระลงปรกใบหน้าขาวจัด
ดวงตาสีฟ้าอ่อนใสราวกับสายน้ำจ้องตอบมา
"เธอน่ะ... เป็นของผมได้หรือเปล่า? เท็ตสึยะ"
ไม่ใช่ทั้งคำสารภาพรักหรือคำกล่าวขอสานสัมพันธ์
แต่เป็นประโยคเรียบง่ายเช่นนี้เอง
คุโรโกะอิงใบหน้าซบกับฝ่ามืออุ่นของอีกฝ่ายที่เลื่อนขึ้นหยิบใบหน้า
และวางมือตัวเองแตะลงบนหลังมือนั้นอย่างแผ่วเบาแทนคำตอบ
ดวงตาสีฟ้าอ่อนปรือปิดลง พร้อมกับสติที่ล่องลอยหายไป
และในค่ำคืนหนึ่งของฤดูร้อนในปีนั้น เธอก็ 'เป็นของ' อาคาชิคุง
TBC.