วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

SisterComlpex[UnComplete]

Title : Sister Comlpex
 Fandom : Shingeki no Kyojin or Attack on Titan
Genre : AU , Incest
Rate : NC-17
Pairing: Levi x Eren(C) , Armin x Eren(C)




มาเร็วจัง... พี่สาวทักเสียงใส รีไววัย13เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนมองนิ่ง
กลับมาแล้ว..เอเลน หญิงสาวทำหน้ามุ่ย บ่นอุบอิบ เรียกพี่สิ!

น้องชายทำมึนใส่ เดินมาชะโงกดู
วันนี้ทำอะไรกิน? ยืนซ้อนหลังเนียนเอาคางเกยบนไหล่บาง
กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนผมยาวทำเอาใจเด็กหนุ่มเต้นระรัว

มือคว้าเอวพี่สาวมากอดไว้ ก่อนซบหน้าไปกับแผ่นหลังเล็ก
จะอ้อนอะไรพี่ล่ะ? เอเลนยิ้มขำ มือทำกับข้าวไปเรื่อย ไม่คิดสะกิดใจอะไร

ตรงข้ามกับเด็กหนุ่มผมดำ สิ่งที่คิดในหัวมีแต่คำว่าอยากครอบครอง
เขาอยากสัมผัส..อยากจูบ อยากตีตราบนผิวกายหอมกรุ่นนี้

ความที่อยู่กันแค่สองคนพี่น้องมาตั้งแต่เด็ก
พ่อเป็นศัลแพทย์ที่งานยุ่งมากกลับบ้านไม่เป็นเวลา คุณแม่เสียไปตั้งแต่รีไวเกิด เอเลนเลยตามใจน้อง

ทุกอย่าง... ไม่เคยคิดว่าพฤติกรรมใกล้ชิดเกินพอดีผิดแปลก
คงเพราะรีไวเห็นเราแทนแม่น่ะแหละ ยิ้มกับตัวเอง ว่าไง? วันนี้มาแปลกนะ อ้อนเชียว

รีไวไม่พูด แต่กอดแน่นกว่าเดิม แค่อยากกอด..มีปัญหาหรือไง?
พี่สาวยิ้มขำ ละมือมาขยี้ผมเด็กหนุ่มเบาๆ เด็กหนอเด็ก เอเลนคิด

ไม่ใช่เด็กแล้ว... อยากเถียงออกไปใจจะขาด แต่พี่สาวคนซื่อคงไม่รู้อะไร

ใบหน้าหวานมองน้องชายด้วยแววตาเอ็นดู
เขารักเธอ..รักแบบที่ผู้ชายรักผู้หญิง

ตั้งแต่จำความได้ ผู้หญิงที่สวยที่สุดก็คือเธอ
รอยยิ้มสดใส ไร้เดียงสา แต่แอบขี้เล่น ติดจะซื่อไม่ทันคน
แต่จริงใจกว่าใคร รัก...เขารักทั้งหมด

ดวงตาสีเทาคมกริบจ้องมองหญฺงสาวตรงหน้าเขม็ง ริมฝีปากบางอ้าน้อยๆรับอาหารเข้าปาก

ไม่กินเหรอรีไว? เดี๋ยวเย็นหมดนะ เอเลนทักเมื่อเห็นน้องเอาแต่มอง

รีไวกินข้าวเงียบๆ แต่ลอบสังเกตทุกอิริยาบท
แต่เพราะเขาเงียบเป็นปกติอยู่แล้ว เอเลนเลยไม่สงสัยอะไร จนกระทั่งเสียงกริ่งดังขึ้น

เอเลนยิ้มร่า ลุกพราดพราดไปยังหน้าประตู มีอะไร? รีไวถามรั้ง
เอเลนชะงักก่อนตอบด้วยรอยยิ้ม เซอร์ไพรซ์ไง เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว คิดไม่ออกว่าเซอร์ไพรซ์อะไร

นี่อาร์มิน..เพื่อนพี่ที่เคยมาบ้านไง คนที่ชอบฝากหนังสือมาให้รีไวน่ะ..จำได้มั้ย?
หนุ่มผมทองยิ้มอ่อนโยนให้ รีไวพยักหน้าสังหรณ์แปลกๆ

ตอนนี้เราคบกันแล้วล่ะ! เอเลนเอ่ยดีใจ เอเลน....อาร์มินยิ้มเขินๆเกาท้ายทอย
ทั้งคู่มองหน้ากันยิ้มหวาน ไม่ได้สังเกตมือที่กำแน่นของรีไว

แล้วไง? เด็กหนุ่มพยายามคุมเสียงไม่ได้ให้แข็งกระด้าง ขณะมองพี่สาวคล้องแขนกอดชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา

ก็...บางวันพี่อาจจะกลับช้าบ้างอะไรบ้าง รีไวดูแลตัวเองได้ใช่ไหม? ยิ้มเขินๆ มองตาสีฟ้าของแฟนหนุ่ม

รีไวไม่ทนอีกต่อไป ตบโต๊ะดังปัง! ถ้าจะมาพลอดรักกันที่นี่ก็ไสหัวไปทำกันที่อื่น!!
ลุกพรวดเดินหนีเข้าห้อง อาละวาดข้าวของกระจาย

เอเลนตกใจ..วิ่งไปตามหน้าห้อง รีไว..รีไว! ไม่คิดว่าน้องจะต่อต้านขนาดนี้
เสียงตึงตังยิ่งทำให้ใจเสียกลัวน้องทำร้ายตัวเอง

คงเพราะหวงเธอน่ะ น้องชายก็แบบนี้อาร์มินปลอบ หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักซบหน้ากับอกแฟน
ฉันเลี้ยงแกมาแต่เล็กน่ะ...ทั้งคู่ไม่ได้เอะใจเสียงเงียบลง

ไม่เป็นไรผมเข้าใจ อาร์มินว่า จูบหน้าผากเนียนเบาๆ แล้วผมจะมาใหม่ล่ะกัน เอเลนซึ้งที่แฟนไม่โกรธอะไร

รีไวเห็นภาพทั้งหมดเต็มสองตา.. มือสองข้างกำหมัดแน่น
เอเลนเป็นของฉัน...เป็นผู้หญิงของฉัน แกไม่มีสิทธิ์! มองอาร์มินอย่างมุ่งร้าย

คิดแค้นผู้ชายที่มาพรากพี่ไปจากตัวเอง ในหัวคิดแผนสารพัด
แต่ยังก่อน...ถ้าทำอะไรมันตอนนี้พี่จะเดาได้ว่าเป็นฝืมือเรา แสยะยิ้มเหี้ยม

ต้องทำให้พี่ออกห่างมันด้วยตัวเอง.... รีไวคิด ประตูเปิดออก พร้อมใบหน้ากังวลชัดของเอเลน

คือ...คือพี่ อ้ำอึ้งจะแก้ตัว

เอเลนไม่ผิดนี่...ฉันแค่อารมณ์เสียนิดหน่อยมาก่อน ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
เอามือทาบออกโล่งใจ รีไวไม่โกรธพี่ใช่ไหม? ส่ายหน้า..แต่หัวคิดอีกทาง

ตกค่ำได้เวลาอาบน้ำเข้านอน เสียงฮัมเพลงอย่างสบายใจดังสะท้อนในห้องน้ำ
เอเลนลืมล็อคประตูประจำ เด็กหนุ่มวัย13คิด ยามก้าวเข้าไปในห้องเงียบกริบ

ร่างเพรียวบางกึ่งนั่งกึ่งเอนกับอ่าง ผิวกายแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดพราวด้วยหยาดน้ำ
เส้นผมยาวสีน้ำตาลเข้มจัดระปรกแก้มขาว เรื่อยไปถึงเนินอกอิ่ม

หันมาหลังมา..ฉันจะถูหลังให้

เอเลนเลิกคิ้วแปลกใจ
ปกติชวนก็บ่ายเบี่ยง แต่คิดในแง่ดี น้องชายคงมาง้อเรื่องที่อาละวาดเมื่อกี้

มือสากใช้ใยบวบถูเบาๆ ไปตามลาดไหล่เล็ก แผ่นเนียนส่วนตัดกับปอยผมสีเข้มทีร่วงประปราย
รีไวปาดสัมผัสไปมาด้วยปลายนิ้วบริเวณไขสันหลังของหญิงสาว

ด้วยความที่มันเป็นจุดศูนย์ร่วมประสาท เอเลนจึงหัวเราะคิกคักตัวงอ
อย่าเล่นน่า..รีไว ร่างบางกลั้นขำ เอื้อมมือมาจะรวบเส้นผมรุ่ยร่ายให้เรียบร้อย

รีไวบีบมือนิ่มเบาๆ ก่อนใช้มือตัวเองรวบเส้นผมนุ่มเหล่านั้น เผยหลังคอขาวนวล เด็กหนุ่มอดใจไม่ไหว โน้มลงจุมพิตเบาๆ

ปลายลิ้นสากๆ ทำให้รู้สึกกระจั๊กกระจี้ปนเสียวซ่านประหลาด
ซีกหน้าหวานแดงก่ำ อ๊ะ...เสียงครางหลุดรอดออกมาเมื่อคนด้านหลังเพิ่มแรงเป็นขบเม้ม

อย่าเล่น...แบบนี้... เอเลนครวญ หันหน้าไปท้วงกับน้องชาย แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นริมฝีปากหนาที่จู่โจมมาทาบทับ

เด็กหนุ่มโยนใยบวบทิ้งใช้สองมือกุมไหล่พี่สาวตรึงแน่นกับผนังอ่าง
ขบริมฝีปากล่างเบาๆบังคับให้เปิดออก เอเลนสะดุ้งตกใจผลักร่างที่โถมทับมา

หากความลื่นของอ่างอาบน้ำทำให้เซหงายไป สองขากางออกราวกับอ้ารับอีกฝ่าย
ลิ้นอุ่นร้อนแทรกชอนเข้ามาในโพรงปาก นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างตกตะลึง!

ร่างในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลั่กพยายามขัดขืน แต่ไม่กล้าทำอะไรเขารุนแรง
เอเลนก็คือเอเลน ใจอ่อนกับเขาเสมอ รีไวยิ้มเย็น ระหว่างแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง

หญิงสาวหอบหายใจหนัก แต่ก็ยังมีสติพอรู้ตัวว่าสถานการณ์ไม่ปกติแล้ว

รีไว...เล่นอะไรบ้าๆ เนี้ย! มือดันอกร่างที่โน้มลงมาหา

แต่ก่อนยังตัวเล็กกว่าแท้ๆ ตอนนี้กลับ...บนแผงอกที่ทายมืออยู่ก็ตึงแน่น ไหล่กว้าง เงาดำมืดบดบังเธอจนมิด

ร่างตรงหน้าเปียกโชกไปทั้งตัว ไม่ว่าจะผลักไสเช่นไรก็ลื่นไหลไป ไม่ถอยห่างแม้แต่น้อย เอเลน... เสียงหอบพร่าดังขึ้นเหนือหัว




ขาเรียวหนีบหวังปิดกั้นไม่ให้ถูกรุกราน กลายเป็นรั้งร่างของน้องชายให้เข้ามาแนบชิดกว่าเดิม

นิ่งๆ...รีไวกระซิบแผ่ว พลางจูบขมับที่ชื้นไปด้วยหยดน้ำ ทั้งสองเปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำ ผิดกันแต่ฝ่ายคนอายุน้อยกว่ายังมีเสื้อผ้าติดกาย

หากร่างคนเป็นพี่สาวเปล่าเปลือย มือไล้ผ่านซอกคอเพรียวระหงไปหยุดเหนือทรวงอกนูนอิ่ม ยอดเนื้อสีอ่อนแข็งตึงด้วยความเย็นของสายน้ำ

นิ้วเคล้นคลึงบีบขย้ำเรียกเสียงครางครวญจากเจ้าของร่าง ก่อนตามด้วยปากที่โลมเลียดูดดึง แล้วปล่อยให้เนินอกอีกข้างเป็นหน้าที่ของมือแทน

เอเลนเจ็บจนน้ำตาไหล ซ่านระริกไปทั้งกาย เธอไม่กล้าจะตบหรือถีบน้องแรงๆ ให้หลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ ทั้งความแคบของอ่างอาบน้ำก็ไม่อำนวย

ร่างบางถอยร่นจนแผ่นหลังทาบสนิทกับผนังกระเบื้องด้านหลังไร้ช่องว่าง ก็อกน้ำถูกปิดไปแล้ว เช่นเดียวกับน้ำในอ่างที่ถูกปล่อยออกไปจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

เท่ากับว่าตอนนี้...ที่ทอดกายอยู่เบื้องล่างน้องชาย มีเพียงร่างกายสาวขาวนวลไร้อาภรณ์ใดเท่านั้นเอง

.................................................................................
.......................................
......................................................
........................

และในห้องอาบน้ำนั่น....
เขาขืนใจพี่สาวตัวเอง พี่สาวแท้ๆ ร่วมสายเลือด....

ร่างบางร้องไห้สะอึ่กสะอื้นบนเตียงกว้าง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตามเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยกามกิจเต็มไปหมด

น้ำตาที่อาบคลอใบหน้าหวานนั้นไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อน จะไปจากเขา? ไปกับไอ้หนุ่มผมทองนั่นเรอะ? ฝันไปเถอะ!

รีไวปีนขึ้นเตียงที่ฉุดกระชากร่างบางไปโยนไว้ มือปลดถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกเหวี่ยงไปกองอีกมุมห้อง ตาสีเทามองพี่สาวที่ตัวสั่นสะท้านน่าสงสาร

มือลากข้อเท้าเพรียวของคนที่ถดถอยหนีจนมุมตรงหัวเตียงมาใกล้ เอเลนกุมกระชับผ้าห่มผืนบางที่คลุมกายเพียงหมิ่นเหม่ ยะ...อย่า รีไว

รีไวดึงมือที่กุมแน่นกลางอกแยกไว้บนฟูกนอน ใช้ร่างกายตัวเองแนบชิดกดดันให้หญิงสาวเอนกายทาบตามมือไป ดวงตาสีเขียวใสมองเขาอย่างกวาดกลัว

กลัว...กลัวเข้าไป หัวเข่าแทรกเข้าหว่างขาที่พยายามหนีบรั้งป้องกันตัวเอง เป็นเมียฉันแล้ว คราวนี้จะกล้าออกไปหามันอีกมั้ย? รีไวแสยะยิ้มเหี้ยม

เอเลนโดนย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผิวเนื้อนวลแดงช้ำเป็นรอยจ้ำประปรายทั่วไปหมด ยิ่งบริเวณเนินอกและหลังคอขาวยิ่งเด่นชัด

รีไวอุ้มร่างอ่อนแรงของพี่สาวมานั่งบนตัก แลบเลียหลังคอขาวที่บัดนี้มองแทบไม่เห็นผิวเนื้อ มีแต่รอยตีตราเต็มแน่น

แสงแดดสว่างจ้าสาดเข้ามา... พอ...ที ขอร้อง ร่างบางร้องไห้อ้อนวอน เด็กหนุ่มกอดไม่ปล่อย คลอเคลีบจูบไซร้ไปเรื่อยตามกกหูและไรผม

จูบแรงๆบนริมฝีปากช้ำก่อนผละจาก ฉันไปเรียนก่อนนะ เจอกันตอนเย็น...ทิ้งเอเลนที่เจ็บกายช้ำใจบนเตียงกว้าง ต่อให้ไม่ล่ามโซ่หรือขังก็หนีไปไหนไม่ได้

ร่องรอยต่างๆนานาบนตัวจะฟ้องทันทีว่าเธอถูกทำอะไร...มือถือข้างตัวสั่น ไฟบนหน้าจอกะพริบปริบ อาร์มิน...เอเลนน้ำตาคลอ คว้าขึ้นมาถือ

กำลังจะกดรับ รีไวเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ใบหน้าคมยิ้มอารมณ์ดี เอเลนสั่นกุมมือถือแน่น กลัวน้องชายจะโมโหขึ้นมาอีก เตียงยวบลงตามน้ำหนักที่เพิ่ม

ร่างเด็กหนุ่มกำลังโตตึงแน่นกำยำคืบคลานมาหาพี่สาวช้าๆ ลมหายใจอุ่นเป่ารดปลายจมูก เอเลนกลั้นหายใจ หลับตาไม่กล้าสู้หน้า รับสิ...รีไวกระซิบพร่า

ตาโตเบิกกว้าง ระ..รีไวไม่โกรธ? พยักหน้าซ่อนรอยยิ้มประหลาด เอเลน...เป็นยังไงบ้าง? ได้ยินเสียงอ่อนโยนน้ำตาไหลพราก เธอต้องปิดปากตัวเองกลั้นไว้

สะ...สบายดี อาร์มินล่ะ ตอบกระท่อนกระแท่น เสียงแปลกแปร่งจนปลายสายรู้สึกได้ เกิดอะไรขึ้น..เพราะผมเหรอ? เอเลนส่ายหน้าปฏิเสธทั้งที่อีกคนไม่เห็น

ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร หัวใจเต้นระรัว มือของน้องชายเอื้อมมาคว้าปอยผมขึ้นพันเล่น รั้งตัวเธอไปแนบชิด รีไวแกล้งเอ่ยริมหู ไม่บอกไปล่ะว่าฉันทำอะไร

เสียงสั่นๆนะ? ไม่สบานหรือเปล่า..เดี๋ยวผมไปหา เสียงกุกกักปลายสายคงผุดลุกคว้าข้าวของเตรียมมาหาเธอ อึ่ึก! ยะ.อย่า ร่างบางสะดุ้งเฮือก หือ? เอเลน

มือหนาขย้ำบีบอกเธอแรง เอเลนหอบสั่นปิดปากแน่น กลัวเสียงครางจะหลุดรอดไป เพราะปลายนิ้วนั้นเริ่มลากวนเย้ายอดเนื้อนวล

มือถือร่วงหล่นจากมือ เสียงสวบสาบฟังดูกำกวมไม่แน่ชัดแว่วผ่านคลื่นโทรศัพท์ไป อาร์มินเริ่มใจคอไม่ดี เอเลน..เอเลน! ปิ๊บ!! กดวางสาย

พยายามโทรกลับไปเท่าไหร่ก็ไม่รับ หนักเข้าก็ปิดเครื่องไปเลย เป็นห่วงกังวลสารพัด น้องชายเอเลนดูโมโหมากอาจจะทะเลาะกันรุนแรง //ออกไปหา

วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นแมนชั่นมา กำลังจะเคาะประตู เจอรีไวเปิดสวนมาก่อน โห...เร็วนี่ อาร์มินเลิกคิ้วแปลกใจ เวลานี่เด็กม.ต้นน่าจะเรียนอยู่

แต่ความเป็นห่วงแฟนมากกว่า รีไวคุง..เอ ไม่มีอะไร แค่ไข้ขึ้น พูดตัดบท ไม่อยากได้ยินชื่อเอเลนจากปากคนอื่น โดยเฉพาะคนตรงหน้า ระคายหู ปิดประตูใส่

มือขวางยันประตูไว้ ขอผมเจ้าไปดูที เสียงเอเลนในโทรศัพท์เมื่อกี้ไม่ดีเลย ยิิ้มเยาะแบบที่คนเห็นไม่เข้าใจ งั้นจะเข้ามาก็ได้...เชิญ เปิดประตูทิ้ง

เอเลน มีคนมาหาน่ะ จากมุมนี้เขาเห็นแค่แผ่นหลังของรีไวคุงที่ทรุดลงข้างเตียง ได้ยินเสียงอืออาตอบรับแบบไม่เป็นคำของแฟนสาวแว่วมา

ผิดปกติ...ผิดปกติเกินไป ตาสีฟ้ามองรอบข้างอย่างใจเย็นและสังเกตรายละเอียด ข้าวของส่วนใหญ่ก็ตั้งตำแหน่งเดิมกับเมื่อวาน เรียบร้อยดี...ดีเกินไป

กับท่าทางที่พร้อมอาละวาดบันดาลโทสะนั้นของน้องชายแฟน ไหนจะแววตาที่ราวกับประกาศชัยชนะนั้นอีก อะไร...เกิดอะไรขึ้น

เข้ามาสิ ผายมือเชิญ ท้าทายชัดเจน อาร์มินข่มสัญชาตญาณทีาร้องเตือนลั่น ก้าวเข้าไปหาร่างบางที่นอนบนเตียง คิ้วเรียวขมวด นี่ไม่ใช่ห้องเอเลน...

เขาเคยมาหาเอเลนถึงห้อง2-3ครั้ง เวลาที่รีไวไม่อยู่ ห้องเธอจะค่อนข้างรกตามประสาคนชอบย้ายโน้นนี้แล้วไม่ค่อยเก็บ แต่นี่สะอาดสะอ้านเรียบร้อย

อาร์มินสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆ เอเลน..เขาลองเรียก ร่างบางถูกคลุมห่มด้วยผ้าห่มผืนหนา มือซุกอยู้ใต้นั้น เปลือกตาปรือปรอยแดงก่ำอย่างน่าใจหาย

คืนเดียวเท่านั้นเอง... ประกายสดใสที่เคยมีบนตัวเอเลนราวกับดับแสงหายไป อาร์มินคว้ามือที่ซุกอยู่มากุมไว้ซึ่งจิกเกร็งไม่ยอมทีแรก

ตาสีฟ้าทอดมองนิ่งพลางแตะหลังมืออย่างอ่อนโยน มือน้อยนั้นจึงคลายออก อาร์มิน...น้ำตารื้นล้นขอบตา ครับ..เขาขานรับ ขณะเอามือนุ่มแนบแก้มตัวเอง

ปัง! รีไวทุบผนังห้องอย่างแรง ชั้นแขวนร่วงกราวเต็มพื้น เอเลนผวา ค่อยๆดึงมือออกจากแก้มของแฟนหนุ่ม วะ.วันนี้กลับไปก่อนนะอาร์มิน

แต่เอเลนดูไม่ดีเลยนะ... แนบหน้าผากวัดไข้ ตัวก็ร้อนด้วย...กินข้าวกินยาหรือยัง? ถามอย่างเป็นห่วงจริงจัง

ใกล้ชิดสนิทสนมบาดตาคนที่ยืนมอง รีไวจ้องตาขวาง ขยับปากโดยไร้เสียง อย่า-ทำ-ให้-ฉัน-โกรธ เอเลนเม้มปากแน่น กลัวรีไวทำร้ายอาร์มิน

ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ตอนบ่ายมีพรีเซ็นต์งานสำคัญนะ ไปเถอะ ส่ายหน้าพลางฝืนยิ้มตอบ ไม่เป็นไรจริงๆ พร้อมย้ำกับแฟนหนุ่มอีกรอบ

อาร์มินโคลงหัวอ่อนใจ แต่ต้องยอมแพ้ เพราะงานช่วงบ่ายสำคัญมากจริง แล้วเย็นๆผมจะมาใหม่...

แม้จะไม่วางใจนัก แต่ก็จำต้องเอ่ยฝากฝัง รีไวคุง ดูแลเอเลนด้วยนะ จูบหน้าผากเบา หายเร็วๆนะ..

หญิงสาวน้ำตาคลอ อยากจะบอก อยากจะอ้อนขอความช่วยเหลือ แต่เธอกลัว...กลัวว่าน้องชายจะทำอะไรคนที่รัก อืม...แล้วเจอกัน ได้แต่พูดประโยคนี้ออกไปแทน

เสียงประตูด้านหน้าปิดลง เอเลนที่เหม่อมองแผ่นหลังของแฟนหนุ่มจนลับตา ไม่ทันสังเกตร่างของน้องชายที่ก้าวเข้ามาในห้องแม้แต่น้อย ใบหน้าเรียบเย็นชา

อาลัยอาวรณ์กันจริง... จึงตกใจจนถอยกรู เมื่อพบว่า...บนเตียงกว้างที่เธอนอนอยู่ ไม่ได้มีตัวเองเพียงลำพังแล้ว ระ..รีไว มองสายตาเหี้ยมหวาดกลัว

กระชากข้อแขนแรง เผยให้เห็นว่าใต้ผ้าห่มมีเพียงชุดนอนบางเบาคลุมกายเท่านั้น ร่องรอยตีตราสีช้ำ ม่วงบ้างแดงบ้างประปรายเต็มเนื้อตัวไปหมด

ฉันล่ะอยากเห็นหน้าหมอนั่นตอนที่เห็นเธอในสภาพนี้เต็มตาชะมัด... รีไวเยาะ เอเลนส่ายหน้ารัวๆ ผวาเกาะน้องชายแน่น อย่านะ...อย่าบอกอาร์มิน

เธอไม่อยากให้รู้....เพราะถ้ารู้ล่ะก็อาร์มินคงต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆ และคนเดือดร้อนนอกจากเธอแล้วก็จะเป็นรีไว...น้องอาจโดนจับเข้าโรง'บาลจิตเวช

หรืออะไรแนวนั้น ชีวิตที่กำลังเริ่มก็จะพัง.... เอเลนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ต่อให้โดนทำร้าย แต่ยังไงในฐานะพี่..เธอก็หวังให้น้องมีชีวิตที่ดี

และที่สำคัญ...ทั้งที่ตั้งใจไว้แล้วแท้ๆว่า-ครั้งแรก-ของเธอจะต้องเป็นอาร์มิน แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า... โห ทำไมฉันต้องทำตามที่ขอด้วยล่ะ?

ในเมื่อ...คนที่ได้เธอก่อนใครเป็นฉัน ฉันก็มีสิทธิ์ประกาศให้ใครรู้นี่? รีไวรู้ทัน ยิ้มหยัน ม่ะ..ไม่ใช่นะ เอเลนพยายามปฏิเสธ น้องชายหรี่ตามอง

อย่ามาแถหน่อยเลย เข้าไปตอนแรกก็รู้แล้วว่าเธอยังซิง...ทั้งสดทั้งใหม่ แน่นฟิตเชียว ไม่เคยล่ะสิท่า ไร้น้ำยาชะมัด... ประโยคแขวะอาร์มิน

ไม่ใช่นะ!! เอเลนโมโห ลืมตัวขึ้นเสียงใส่ อาร์มินเป็นสุภาพบุรุษตั้งหาก...ฉันน่ะ...ฉันเอง...เถียงไปโดยไม่รู้ตัวว่า ไปเหยียบกับระเบิดเข้าซะแล้ว




Spoil :;

"พี่หมอคะ..ฉันมีเรื่องอยากขอร้อง" เอเลน เยเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเกือบจะเรียกได้ว่าราบเรียบด้วยซ้ำ ผิดกับนิสัยร่าเริงติดจะโผงผางเกินหญิง

"เกี่ยวกับอาร์มินมั้ย?" คุณหมอหนุ่มวัยสามสิบต้นหยั่งเชิง จะด้วยสัญชาตญาณของพี่ชายหรือสังหรณ์ส่วนตัว ฮันจิรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

แถมยังเป็นสิ่งที่หนักหนาขนาดสั่นคลอนความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่นี้แน่ เอเลนเป็นผู้หญิงน่ารัก สำหรับเขาที่ชอบใจตรงนิสัยไม่กลัวอะไรง่ายๆนี่แหละ

ฉะนั้นไอ้ท่าทีหลุบตาหลบ แทบไม่มองหน้าตลอดบทสนทนากระทั่งเมื่อกี้นี่...แปลกเอามากๆ


[TBC.?]

Hana saku Shoujo-6-




花咲く少女
Hana saku Shoujo

-6-





ฉันจะปกป้องนายเอง

ได้ยินเสียงที่กล่าวประโยคนั้นอย่างแผ่วเบา ใคร.. ใครกัน

เอเลน.. ฉันสัญญา

สายตาที่มองมาอย่างอ่อนโยน มือที่คอยประคองซึ่งกันและกันยามล้มลง เสียงหัวเราะของเราทั้งคู่เหมือนสะท้อนมาจากสถานที่แสนห่างไกล

ฉันสัญญาว่าจะกลับไปหานาย

ประโยคนั้นทวนซ้ำไปมาอยู่ในโสตประสาท ราวกับจะตอกย้ำลงไปในอกด้านซ้าย

เพราะอย่างนั้น.. ได้โปรดรอฉัน

ใช่ ตัวเขาเองตอบไปว่าจะรอ จะรออีกฝ่ายกลับมา จะอยู่ตรงนี้เพื่อรอใครอีกคน

มีชีวิตรอฉันนะ

นี่คือเหตุของการดิ้นรนและต่อสู้ มีชีวิตเพื่อรอให้คำสัญญาเป็นจริง จนกว่าอีกฝ่ายจะกลับมา.. เขาไม่อาจตายได้ จะต้องมีชีวิตรอดเพื่อรอเธอ

มิคาสะ
มิคาสะ
ได้ยินเสียงฉันรึเปล่า ฉันยังอยู่ตรงนี้ ยังรออยู่นะ เพราะงั้น.. กลับมาได้แล้ว


สองมือไขว่คว้าได้เพียงความว่างเปล่า พอลืมตาตื่นก็พบเพียงเพดานสีซีดที่คุ้นเคย ในห้องไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต ไม่มีเสียงที่ดังกังวานเหมือนจริงในห้วงฝัน มีเพียงเธอเพียงคนเดียว

มิคาสะ.. ใช่ เมื่อกี้เธอฝันถึงมิคาสะ

ตอนนี้เพื่อนสมัยเด็กของเธอจะเป็นยังไงบ้างนะ อาจจะมีภารกิจให้ทำจนยุ่งหัวปั่นเลยก็ได้ เด็กสาวอีกคนไม่ค่อยได้แวะมาเพราะได้รับมอบหมายให้ไปทำงานบางอย่างในกำแพงนั่น ดูเหมือนจะปลอดภัยแต่แท้จริงแล้วอันตรายยิ่งกว่าตนที่อยู่ในปราสาทท่ามกลางฝูงอมนุษย์เสียอีก

ในกำแพงนั่นไม่มีใครที่เชื่อใจได้ทั้งนั้น
เพราะงั้นจึงได้แต่ภาวนาให้อีกฝ่ายปลอดภัย.. และกลับมาหาตนภายในเร็ววัน

พอยันกายลุกขึ้นก็ต้องพบกับความปวดหัวจี๊ดที่แล่นขึ้นมาจนทำสายตาพร่าเลือนไปชั่วขณะ เสื้อผ้ายังคงเป็นตัวเดิม แต่เธอรู้สึกสดชื่นกว่าตอนตื่นนอนครั้งแรก ลองเดาจากภาชนะใส่น้ำที่วางอยู่ข้างเตียงก็อาจเป็นเพราะมีใครบางคนเช็ดตัวให้เธอ

เอเลน! ฟื้นแล้วเหรอเนี่ย ฉันตกใจแทบแย่เลยนะ

โทนแหลมสูงดังตามมาหลังจากเสียงเปิดประตู เอเลนหันไปและพบว่าเป็นคุณฮันจิที่เข้ามาในห้อง ในมือของอีกฝ่ายมีถาดใส่ถ้วยเล็กๆมาด้วย พอจมูกได้รับกลิ่นมันก็ทำเธอท้องร้อง อาจจะเป็นข้าวต้มหรืออาหารอ่อนๆสำหรับคนป่วย

แล้วใครที่ป่วยกันล่ะ?

กินซะ เด็กอยู่ในวัยกำลังโตแบบนี้ยิ่งต้องการสารอาหารเยอะกว่าปกติ รีไวนี่ก็ไม่ไหวเลย ให้เธออยู่แต่ในห้อง พอไม่ได้ออกกำลังกายร่างกายมันก็อ่อนแอเป็นธรรมดา 

หญิงสาวพูดพร้อมถอนหายใจ

อ่อนแอ?”

อะไรกัน จำไม่ได้เหรอ? เธอน่ะอยู่ดีๆก็เป็นลมล้มพับลงไปเลย อ้อ ก่อนหน้านั้นมีอาเจียนด้วยนะ พวกฉันตกใจกันยกใหญ่ตอนรีไววิ่งมาบอกน่ะ

เอเลนเริ่มจำได้รางๆว่าพอตนตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเวียนหัว และในที่สุดก็อาเจียนออกมา มันกะทันหันมากจนไม่ทันตั้งตัว กระเพาะบีบรัดและรู้สึกปวดแสบ พอรู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงแล้ว

เด็กสาวรับชามข้าวต้มจากอีกฝ่ายมา ควันที่ลอยอยู่บ่งบอกถึงความร้อน แต่เสียงท้องที่ร้องโครกครากทำให้มือขยับตักอาหารตรงมาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

โอ๊ย!”

ใจเย็นๆสิเอเลน มันร้อนอยู่นะ

ฮันจิตกใจเป็นระลอกที่สองเมื่ออีกฝ่ายรีบกินซะจนข้าวต้มร้อนลวกปากเข้าให้ เธอลอบยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตัวได้สมกับที่เป็นเด็ก ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับรีไว ขานั้นเอะอะอะไรก็จะให้เด็กสาวทำทุกอย่างให้ได้ดั่งใจ ไม่เหลือพื้นที่ของเด็กอายุรุ่นลูกให้อีกฝ่ายเลย

เด็กน่ะต้องร่าเริงและสดใสสิ!

เป็นอะไรไปเอเลน?”

เขาว่าคนที่ถูกนินทามักจะอายุยืนเพราะถูกพูดถึงบ่อยๆ แต่ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมาเร็วขนาดนี้ ฮันจิได้แต่ถอนหายใจ
รีไวเปิดประตูเข้ามาพอดีกับที่ได้ยินเสียงร้องของเด็กสาว ทีแรกเขาตกนึกว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรอีก แต่พอได้ยินอีกคนในห้องปรามถึงได้รู้ว่าคนของตนคงซุ่มซ่ามเหมือนทุกครั้ง

ปะ เปล่าครับ” ..และปากแข็งไม่เปลี่ยน

นายเคลียร์งานเสร็จแล้วเหรอรีไว?”

ฉันไม่ได้แอบมาอู้เหมือนใครบางคนจนงานไม่เดินหรอกนะ

ถ้าไม่ติดว่ามีเด็กสาวอยู่ข้างๆ ฮันจิคงจะกระโดดไปอัดหมัดเข้าไปใส่ผู้ชายตรงหน้า

ฉันเอาข้าวต้มมาให้เอเลนต่างหากล่ะ! ถ้านายว่างแล้วก็มารับหน้าที่ต่อซะ เออร์วินก็เพิ่งกลับไปตอนฉันมานี่ล่ะ

เอเลนแทบสำลัก ไม่คิดเลยว่าตนจะทำความลำบากให้หลายๆคนขนาดนี้ คุณฮันจิก็ต้องพักงานของตัวเองไว้ หัวหน้ารีไวก็ต้องหัวหมุนรีบทำให้เสร็จเพื่อกลับมาดู หัวหน้าเออร์วินยิ่งไม่ต้องพูดถึง.. คงจะยุ่งกว่าสองคนนี้หลายเท่า

เห็นอีกสองคนคุยกันต่อนิดหน่อย ส่วนเธอก็ค่อยๆตักอาหารในชามเข้าปากแทนที่จะจ้วงเอาๆแบบครั้งแรก เพราะกลัวจะโดนสายตาประดุจเหยี่ยวของหัวหน้ารีไวทิ่มแทงเหมือนตอนแรก

รีไวเองพอคุยเรื่องงานกับเพื่อนร่วมทีมเสร็จก็หันมาสำรวจเด็กสาว อีกฝ่ายหน้าซีดเหมือนกระดาษ มือเล็กที่จับช้อนและชามนั่นก็ดูสั่นเทาจนกลัวว่ามันจะหกลงมา มีเพียงเสียงเคี้ยวดังต่อเนื่องเท่านั้นที่บอกว่าอีกฝ่ายคงอาการดีขึ้นมากแล้ว

เป็นยังไงบ้าง หืมม์?”

เนื่องจากตกใจกับการประชิดตัวแบบกะทันหันของอีกฝ่าย เด็กสาวเลยสำลักจนต้องทิ้งช้อนให้ลงไปนอนลอยอยู่ในชามเหมือนเดิม เสียงไอดังขึ้นอยู่ไม่นานก็หยุดลงเพราะคนที่เป็นต้นเหตุส่งแก้วน้ำมาให้
ระหว่างที่ของเหลวไหลลงคอ หัวยังคอยช่วยลูบหลังให้อีก ทำให้ในที่สุดทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ วันนี้มีกี่เรื่องแล้วนะที่ทำให้เธอตกใจ ทั้งเป็นลม อาเจียน ข้ามต้มร้อนลวกปาก และสำลัก

ขอบคุณนะครับ

เหตุการณ์ที่ทำให้ใจหายใจคว่ำถัดมาคือ.. หัวหน้ารีไวจูบเธอทันทีหลังประโยคนั้นจบ
แต่มันไม่ใช่จูบที่เคยได้รับเป็นประจำ อีกฝ่ายเพียงแตะริมฝีปากลงมาให้สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มและผละออกไป

ถ้าจะขอบคุณล่ะก็.. หายเร็วๆน่าดีกว่านะ

วินาทีถัดมาเด็กสาวก็ต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาของอีกคน อุณหภูมิบนใบหน้าสูงปรี๊ดยิ่งกว่าความร้อนของข้าวต้มที่อยู่ในมือ มือไม้พันกันเป็นระวิงจนทำช้อนหลุดมือครั้งแล้วครั้งเล่า

รีไวเห็นอีกฝ่ายทำท่าทางเงอะๆงะๆก็อดขำอยู่ในใจไม่ได้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกไป

คนที่อยู่ข้างเตียงเมื่อเห็นว่าเด็กสาวประหม่าจนหยิบช้อนไม่ขึ้นซักที จึงย้ายที่นั่งจากเก้าอี้ไปเป็นบนเตียง มือใหญ่ช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นมานั่งเกยตักตนเองทันทีโดยไม่ฟังเสียงประท้วง

ดะ เดี๋ยวครับหัวหน้า!”

เอเลนร้องเสียงหลงเมื่อหัวหน้าของตนทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะกลัวชามข้ามต้มจะหกเลยกลายเป็นว่าปล่อยให้อีกคนทำอะไรก็ได้ ตอนนี้เธอจึงถูกจัดท่าให้นั่งพาดอยู่บนตักของอีกฝ่าย

รีไวเริ่มขัดใจเมื่อเด็กสาวทำท่าจะผละออกไป แต่มีหรือที่เขาจะยอม เขาใช้ฝ่ามือกดตัวร่างเล็กไว้ไม่ให้ขยับได้ ขณะที่อีกมือเอื้อมไปคว้าช้อนขึ้นมาแทนคนป่วย

กินให้หมดเสียที ยัยฮันจิจะได้ไม่เสียใจที่อุตส่าห์ทำข้าวผสมน้ำมาให้

ขนาดเธอไม่ใช่คุณฮันจิ แต่ฟังแล้วยังเจ็บแทน
รสชาติมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น.. หรือเธอหิวก็ไม่รู้
ที่ตกใจกว่าคือมือใหญ่ที่ประคองช้อนและนำมันมาแตะที่ริมฝีปากตน พอไม่อ้าปากก็ถูกอีกฝ่ายขู่ว่าจะให้กรอกลงไปทั้งชามแทน จึงรีบอ้าปากและกินอย่างรวดเร็วคำแล้วคำเล่า

พอเห็นเด็กสาวก้มหน้าก้มตากิน รีไวก็รู้สึกพอใจพลางยกยิ้มให้กับตัวเอง

แต่สำหรับเอเลนแล้ว หัวหน้าของเธอคงไม่รู้หรอกมั้งว่าที่ตั้งใจกินขนาดนี้เพราะไม่กล้าเงยหน้ามองอีกฝ่ายต่างหากเล่า

รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั่น.. ทำให้ทั้งร่างกายเธอร้อนไปหมด

ชายหนุ่มมองเด็กสาวที่ตั้งอกตั้งใจกินอาหารที่เขาประคองป้อนถึงปากด้วยแววตาอ่อนแสง บนเรียวปากผุดรอยยิ้มบางตลอดเวลา

แน่นอนว่าในระยะที่ใกล้ชิดกันถึงเพียงนี้ทุกปฏิกิริยาของเด็กสาวย่อมไม่รอดพ้นสายตา

ไม่ว่าจะสองข้างแก้มที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ นั้นที่กำลังขึ้นสีระเรื่อน้อยๆ ไล่ไปขึ้นจนใบหูแดงก่ำ หากเป็นยามปกติคงได้ทักหยอกเย้าอีกฝ่ายให้เขินอายจนแสดงสีหน้าน่าเอ็นดูมาให้บันเทิงใจเล่น เสียแต่ยังป่วยอยู่มาก

ดวงหน้านวลค่อนข้างซีดเซียว แม้จะมีเลือดฝาดขึ้นมาบางแล้ว แต่ก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี

วินาทีที่เห็นร่างเพรียวบางที่นอนพิงพาบไปกับพื้นหินเย็นจัดด้วยใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวเย็นเฉียบไม่นุ่มอุ่นเหมือนเคย และเปลือกตาที่ปรือปรอยปิดลงไปต่อหน้าต่อหน้า

ใจเขาแทบขาดลงไปตรงนั้น

ความหวาดกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อนพุ่งเข้ามาทิ่มแทงหัวใจราวกับเข็มแหลม

กลัว...กลัวจะสูญเสียคนในอ้อมแขน
หวั่นเกรงว่าเจ้าของร่างนี้จะไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีก

เสียงที่เรียกขานนามเขาอย่างอ่อนโยนและใสซื่อ บริสุทธิ์ใจยิ่งกว่าใคร ดวงตาสีเขียวมรกตสดใสเจิดจ้าเปี่ยมชีวิตชีวา

กลัว....กลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้เห็น
และจะไม่ได้สัมผัสมือกันอบอุ่นที่เกาะกุมไว้อย่างอ่อนโยนของเด็กคนนี้ไปตลอดกาล

แม้ภายนอกจะเข้มแข็งเพียงไร และแม้จะผ่านการสูญเสียมามากมายแค่ไหน แต่ใจดวงนี้ก็ไม่เคยคุ้นชิน
....ไม่เลยแม้แต่น้อย


เขาสูญเสียสหายและคนสำคัญไปมากมาย จนไม่อาจรับความรู้สึกวูบโหวงว่างเปล่า ยามถูกกระชากดวงใจออกไปทั้งเป็นได้อีกต่อไปแล้ว

ปลายนิ้วเกลี่ยมุมปากที่มีหยดน้ำข้าวออกให้อย่างเบามือ ปัดผ่านกลีบปากหยักเล็กสีอ่อนแผ่วเบาและทะนุถนอมราวกับกำลังสัมผัสเครื่องแก้วเนื้อบาง ก่อนจะส่งมันเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย

"จืดสนิท... ยัยสี่ตานั้นทำอาหารห่วยชะมัด"

ดวงตาสีเขียวคู่โตกะพริบถี่ ตาโตๆเบิกกว้างขึ้นจนรูม่านตาขยายกว้างด้วยความตกใจปนคาดไม่ถึง น่ารักน่าใคร่เสียแทบอดใจไว้ไม่อยู่ กว่าจะรู้สึกตัวก็เขินจนก้มหน้างุดลงไปอีกรอบ มือขยุ้มกำผ้าห่มผืนหนาบนหน้าตักแน่น

จะ...จูบทางอ้อมอ่าาา

ใบหน้าแสดงสิ่งที่คิดออกมาอย่างใสซื่อ ถ้าไม่ติดว่าเขายังนั่งอยู่ตรงนี้ เด็กนี่คงฟุบหน้าลงไปทุบหมอนรัวๆ แล้ว

รีไวกลั้วหัวเราะในลำคอ นึกขันกับความไร้จริตและอ่อนเดียงสาของ-เจ้าสาว-ที่อายุน้อยกว่า ทั้งที่มีความสัมพันธ์กันไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา เด็กคนนี้ก็ยังเขินอายและตอบสนองอย่างไร้จริต เช่นเดียวกับครั้งแรกเสมอ...

"หะ...หัวหน้า"

นี่ก็เหมือนกัน... เสียงตื่นๆ เจือปนระหว่างความกล้ากับกลัว ยามถูกแตะต้อง นิ้วมือออกแรงช้อนเพียงนิด ใบหน้าเนียนที่ก้มต่ำก็ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาเดียวกัน

สีเขียวใสสบกับสีเทาจาง...ตัดกันราวกับหมอกสลัวในที่คลี่คลุมหมู่แมกไม้ในพงไพรยามอรุณรุ่ง

และค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันด้วยแรงดึงดูดตามความรู้สึกลึกซึ้งที่มีแก่กันอย่างช้าๆ

สัมผัสนุ่มอุ่นแนบประทับลงบนหน้าผากเนียนผ่อง ลมหายใจร้อนระรดผะผ่าว อวลด้วยกลิ่นไอหอมสะอาดอันเป็นเอกลักษณ์ของใครอีกคน

พักผ่อนซะ เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก หัวหน้ารีไวยังคงใช้คำสั่งเด็ดขาดกับตนเหมือนเดิม แต่ว่า..
แต่ผมยังไม่ง่วงเลยนะครับ
อีกฝ่ายเลิกคิ้ว เป็นปฏิกิริยาที่เอเลนไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น ยังไงก็แล้วแต่.. ถ้าจะให้นอนตอนนี้ยังไงก็นอนไม่หลับอยู่ดี เธอเพิ่งตื่นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา พอเป็นลมไปก็ได้นอนต่อ และการลืมตาดูพระอาทิตย์ไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องล้มตัวลงนอนอีกคงไม่ดีต่อสุขภาพนัก

คุณฮันจิเองก็บอกให้ผมออกไปออกกำลังกายบ้างไม่งั้นจะอ่อนแอไปกว่านี้ ใช่ เธอเองก็เบื่อที่จะอุดอู้อยู่แต่ในห้องแล้วด้วย

อยากง่วงรึเปล่าล่ะ?”
เอเลนไม่เข้าใจความหมายแฝงของประโยคนั้นจึงได้แต่เอียงคอทำหน้างง ถ้าไม่ง่วงแล้วจะทำให้ง่วงได้ด้วยเหรอ?

และถ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตนก็คงยอมห่มผ้า คลุมโปง และหลับตาไปแต่โดยดี

ผู้เป็นหัวหน้าวางชามข้ามต้มที่ถูกจัดการจนเกลี้ยงไว้บนโต๊ะหัวเตียง ในเมื่อเด็กสาวของตนไม่ยอมนอนแต่โดยดี ก็คงต้องใช้วิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายหลับสบายไปอีกหลายชั่วโมงแทน

จะมาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ

เห็นแก่ว่ายังป่วยอยู่ จะยังไม่เต็มที่แล้วกัน

ยะ อย่า อ๊ะ..”
ใต้เสื้อนอนตัวโคร่งที่สวมใส่เพียงตัวเดียว ฝ่ามือของอีกฝ่ายลากไล้จากหัวเข่าสูงขึ้นมาจนเนื้อผ้าเกิดรอยย่น เอเลนเกร็งตัวทันทีเมื่อรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป หะ หัวหน้า อย่านะ.. ยะ อย่าถอดครับ!”

ปลายนิ้วหยุดลงเมื่อเจอเป้าหมายที่ต้องการ ตวัดเกี่ยวขอบชั้นในตัวบางและจับมันเลื่อนลงมาตามเรียวขา เด็กสาวพยายามดิ้นแต่กลายเป็นยิ่งส่งผลให้เนื้อผ้าชินน้อยหลุดออกไปจากตัวไวขึ้น

พอเนื้อผ้าบางเคลื่อนตัวมายังบริเวณเข่า มือใหญ่จึงหยุดเพียงแค่นั้น ร่างเล็กผ่อนลมหายใจแสดงความโล่งอก.. แต่ก็มีเวลาให้พักเพียงชั่วครู่เท่านั้นเมื่อสัมผัสหยาบเริ่มไต่ตามต้นขาขึ้นไปสู่ด้านบนดังเดิม

แฉะขนาดนี้แล้ว ยังบอกให้หยุดอีกเหรอ?”

เสียงหยอกเย้าดังขึ้นเมื่อฝ่ามือสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบริเวณเนินเนื้อกลางลำตัวของเด็กสาว ปลายนิ้วลากวนให้ของเหลวปาดป่ายด้านหน้าเพื่อแกล้งอีกฝ่าย ความลื่นเป็นตัวบ่งชี้อย่างดีว่าอีกคนพร้อมแค่ไหนกับการกระทำนี้

เอเลนหน้าแดงและซุกมันลงกับแผ่นอกอีกฝ่าย จะให้บอกได้ยังไงว่าเธอมีความรู้สึกที่ไวขึ้นกับเรื่องพวกนี้เมื่อได้อยู่กับหัวหน้ารีไว ก็มันเพราะใครกันล่ะ..

เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอครั.. อะ

คำถามถูกกลืนหายไปกับเสียงครางที่ดังแทรกเพราะการสอดตัวของปลายนิ้วยาว รีไวรำคาญที่อีกฝ่ายเอาแต่พูดจึงตัดบทเสีย

ไม่ว่ากี่ครั้งที่ได้มองเห็นเด็กสาว.. มากเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ

แต่ตอนนี้จุดประสงค์มีเพียงทำให้อีกฝ่ายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
เมื่อจังหวะเริ่มเร็ว อุณหภูมิในตัวก็เริ่มสูงขึ้น นิ้วร้อนละเลงรัวอยู่ภายใน เอเลนทำได้เพียงครางเหมือนลูกแมวอยู่บนตักหัวหน้าของตน เรียวขาปัดป่ายไปทั่วเหมือนหาที่ยึด ส่วนมือทำได้เพียงกำเสื้ออีกฝ่ายแน่นจนยับยู่ยี่

รีไวจับลำตัวเด็กสาวให้เปลี่ยนมานั่งคร่อมตนไว้เพื่อให้ถนัดมือ มือเล็กที่เกาะกุมหัวไหล่ทั้งสองข้างใช้ปลายเล็บจิกลงมา แต่ตนก็ไม่ได้สะดุ้งสะเทือน กลับยิ้มเมื่อได้รับรู้ถึงแรงอารมณ์ของคนที่ไม่เคยเอ่ยปากร้องขอ

อ๊า!!!”

ของเหลวไหลทวนมือของตนจนทะลักออกมาสู่ด้านนอก เด็กสาวตรงหน้าหายใจหอบ ทั้งตัวแดงราวกับระเบิดออกมา แต่ผู้เป็นหัวหน้าทำเพียงประกบริมฝีปากอ้อยอิ่งที่ข้างแก้ม ก่อนมือใหญ่จะสวนกลับเข้าไปใหม่

เอเลนหอบครางไปตามแรงสะเทือนภายใน เธอคิดว่ามันแปลกที่อีกฝ่ายใช้เพียงมือเท่านั้น ทั้งๆที่ปกติหัวหน้าจะใช้มือเพียงครั้งแรก แล้วหลังจากนั้นจะตามมาด้วย..

อะ ฮะ.. อ๊า!!!”

ความคิดถูกขัดเมื่อเป็นอีกครั้งที่ตนปลดปล่อยอารมณ์ออกมา ปลายนิ้วที่กระชากและดึงรั้งไปตามช่องทางด้านในทำให้เธอไปถึงสุดปลายทางแล้วถึงสองครั้ง

รีไวต้องสะกดอารมณ์ตัวเองเมื่อได้เห็นคราบของเหลวไหลลงมาตามเรียวขาของอีกร่างเล็ก พยายามหลับตาจินตนาการว่านิ้วของตนได้ทดแทนความคับแน่นที่อยู่กลางลำตัว

หะ หัวหน้า.. อ๊ะ ใช้แค่นะ นิ้ว.. อะ.. เหรอครับ?”

แม้จะถูกปรนเปรอจนหัวหมุน แต่เอเลนรู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องอดทนเพียงใด เธอไม่อยากเห็นคิ้วที่ขมวดนั่น ทั้งยังริมฝีปากที่ขบกัดเข้ากันอีก ถ้าอีกฝ่ายอยากปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง.. เธอก็เต็มใจเหมือนทุกครั้ง

อ๊ะ

โดยไม่ปล่อยให้เด็กสาวได้พูดอะไรอีก รีไวผลักอีกฝ่ายลงไปนอนราบและปลดกางเกงของตนลง ความตั้งใจที่ทำมาได้สลายหายไปเพียงเพราะประโยคคำถามของอีกคน

คราวนี้จะได้นอนยาวเลยล่ะ เอเลน เยเกอร์

คราวนี้เอเลนรู้แล้วว่าอีกฝ่ายสามารถทำให้ตนง่วงได้อย่างไร

อา.. อะ ละ ลึกอีก
เตียงสั่นไหวด้วยแรงขับเคลื่อนของพวกเขาทั้งคู่ จากในตอนแรกที่ไม่รู้สึกถึงความเหนื่อย.. เด็กสาวเริ่มอ่อนล้าไปตามความหนักหน่วงที่อีกฝ่ายถาโถมร่างกายเข้ามา แม้ดวงตาจะปรือปรอยแต่ริมฝีปากยังคงส่งเสียงครางออกไปไม่หยุด

อา ฮะ.. ฮ้า!!!”
ความอุ่นวาบไล่จากกลางลำตัวขึ้นมาสู่ท้องน้อย หลังจากนั้นหัวหน้ารีไวก็ถอนตัวออกไป ความจุกเสียดที่ยังไม่จางหายทำให้เธอนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้น
เหนื่อย.. จนหลับตาลงได้อย่างเต็มใจ


แล้วก็อดใจไม่ไหวจนได้...

ถึงส่วนหนึ่งจะเพราะต้องการให้เด็กสาวได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็เถอะ แต่สุดท้ายเขาก็ทำจนถึงที่สุดไปจริงๆ

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยห้ามตัวเองได้สักที...

ชายหนุ่มครุ่นคิด ขณะวางมือลงบนศีรษะเล็กที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มจัดตัดสั้น ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามกลุ่มไหมนุ่มสลวย แสงแดดจางๆ ที่ทอดลงมาขับใบหน้าที่หลับพริ้มให้ดูอ่อนวัยลงเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่ประสีประสาสิ่งใด

"รี..รีไว...หัวหน้า...รีไว"

เสียงครางแผ่วครวญราวลูกแมว ทำให้หยุดมือลงอย่างกะทันหัน ความยินดีเต็มตื้นขึ้นในอกกับเสียงใสและรอยยิ้มบนใบหน้านั้น

ทั้งในยามที่หลับฝันก็ยังมีเขาอยู่ในนั้น....

และเป็นอีกครั้งที่อดใจไว้ไม่อยู่

แผ่นอกเล็กยังคงสะท้านไหวอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับจังหวะหายใจ เอเลนหลับลึกไม่รู้สึกตัวเลย ยามที่ใบหน้าของเขาโน้มลงแตะหน้าผากของเจ้าตัว

แพขนตาสีเข้มทาบทับบนแก้มขาวนวล ใต้เปลือกตาคู่นั้นมีดวงตาสีเขียวใสราวลูกแก้วบรรจุอยู่ภายใน

รีไวทาบริมฝีปากแตะลงบนเปลือกตาบางแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงมาจุมพิตบนริมฝีปากที่เผยออ้าเล็กน้อยรับอากาศหายใจ หากไม่ได้สอดแทรกเข้าไปลิ้มรสชาติอันหอมหวานของโพรงปากนิ่มเช่นทุกครั้ง เนื่องด้วยเกรงอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาซะก่อน

"ฝันดีนะ...เอเลน"





::ด้านหนึ่ง::

หญิงสาวในชุดเตรียมพร้อมกำลังนั่งพาดขาไปกับโต๊ะทำงาน หัวสีน้ำตาลออกแดงที่มีหางม้าน้อยๆ แกว่งไกวไปตามแรงโยกตัว

ในมือเป็นเอกสารของงานประจำวัน หากสิ่งที่กำลังแล่นอยู่ในสมองอันชาญฉลาดของนักวิจัยไททันสาวกลับเป็นอย่างอื่น

ไอ้อาการหน้ามืดตาลาย วิงวอนตอนเช้านี่มัน....คุ้นๆ เอาการน่า~

คลับคล้ายคลับคลาว่าไม่น่าใช่อาการป่วยปกติทั่วไปหรือความอ่อนเพลียที่สั่งสมจากการไม่ออกกำลังจนทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก... และแล้วเอกสารในมือถูกละเลยโดยสมบูรณ์ เมื่อผู้มีหน้าที่ต้องพิจารณาวางโยนลงกับโต๊ะไม่ใส่ใจ

นิ้วเรียวเกี่ยวปากกาที่ใช้ขีดเขียนลงเคาะกับโต๊ะไม้ประหนึ่งเป็นผืนกลอง ดวงตาหรี่ลงใช้ความคิดวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ประมวลผลขึ้นประกอบกันทีละน้อย

ลำดับเวลา...การกระทำ...อาการที่แสดงออกมา....

“เฮ้ย! หรือว่าจะ.....!?

มือทุบโต๊ะเสียงดังปัง พาให้ลูกน้องที่อยู่ใกล้เคียงสะดุ้งโหยงแอบโอดในใจว่า หัวหน้าหมู่ฮันจิ...อีกแล้วไงล่ะ!’ ยิ่งมีรอยยิ้มน่าสะพรึงกลัวราวกับสมอารมณ์อย่างแรงนั้นยิ่งแล้วใหญ่ พาลให้ขนแขนลุกชูชันทั้งตัวเลยทีเดียว

“เอะอะเสียงดังอะไรกัน? ยัยแว่นโรคจิต”

เสียงทุ้มต่ำเรียบเย็นอันทรงอำนาจพูดโพล่งตัดกระแสความคิดของคนในห้อง เรียกความสนใจไปหาร่างที่ไม่สูงใหญ่ แต่แข็งแกร่งที่สุดเป็นตาเดียว

รอยยิ้มหวานน่าขยาดผุดขึ้นบนริมฝีปากของหญิงสาวผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหมู่

“นายว่าเด็กเล็กๆ น่ารักมั้ยรีไว?”

....คำถามที่ไม่คาดคิด ส่งผลให้คิ้วขมวดหม่นด้วยความไม่พอใจ เขากะมาถามไถถึงอาการของเอเลนอย่างละเอียดกับคนที่น่าจะรู้ดีที่สุดอย่างยัยนี่ แต่กลับมาเจอท่าทางกวนส้นนี้ซะได้

คิดบ้าบออะไรขึ้นมาได้อีกล่ะ? ยัยสี่ตา!!

TBC.

Talk Zone : จริงๆ ทุกคนก็น่าจะพอเดาได้แล้วเนอะคะ? ว่าเอเลนป่วย?เป็นอะไร ฮา แต่เราก็จะอุบเงียบต่อไป เจอกันตอนหน้าค่าา ไม่น่าเกินวันศุกร์นี้ เพราะ Hitoriฯ นางบอกจะไปแต่งต่อแล้ววววววว