วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

-KnB Fic- Until...now. -01-

Until...now.

Fandom : Kuroko no Basket

Rate : PG-15 > NC

Pairing:
Akashi Seijurou x Kuroko Tetsuya(C) , Himuro Tatsuya x Kagami Taiga(C)

Genre : AU, Drama , NTR(เล็กน้อย?)

Note :
เรื่องนี้เป็นกึ่งๆ แนว NTR มีการสลับคู่ และน้องครก. ร้ายอยู่พอสมควรมีการพูดถึงความสัมพันธ์ทางกายในเชิงชู้สาวแนวคู่นอน ใครไม่ชอบแนวนี้ก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

และที่สำคัญเป็นแนวฟิคสดที่มีการวางโคร่งไว้เพียงคร่าวๆ
คิดอะไรหรืออย่างแต่งอะไรจะเป็นตามใจฉันคนแต่งนะคะ ฮา

Author by Lina(ChaCHa)
Story by kyokikuma




Night
-01-





ใต้แสงไฟสลัวสีส้มจางของห้องขนาดเล็ก เส้นผมสีดำกลายเป็นสีแดงเข้ม
คุโรโกะ เท็ตสึยะที่นั่งคุกเข่าตรงหน้าชายหนุ่มขณะที่ผมเช็ดเส้นผมเปียกชื้นจากหยาดฝน สติและสำนึกผิดชอบดูเลือนรางเสียเหลือเกินจากความเศร้าเร้นลึกที่ค่อยๆ ผุดพรายขึ้นมา
รู้ตัวอีกที.... เด็กสาวก็แนบริมฝีปากลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย ก่อนจะเลื่อนแตะจูบเบาลงที่ขมับ
ลมหายใจอุ่นระรดใบหน้า ปลายจมูกเขี่ยโดนกันเล็กน้อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะเป็นคนประคองศีรษะเล็กของคนเปิดฉากแล้วบดขยี้ลงบนริมฝีปากบางสีซีดจาง
แอลกอฮอล์แล่นพล่านในกระแสเลือดดับสติให้ขาดหาย และสมองไร้การสั่งการณ์
เขากอดคนตรงหน้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่.....
และคนตรงหน้าเองก็เหมือนกัน ปรารถนาการโอบกอดจากคนที่รู้ดีว่ากำลังรู้สึกไม่ต่างกัน


……….
…...
เด็กสาวนอนหลับไม่สนิทนัก.... ร่างกายปวดเมื่อยและล้าไปทุกสัดส่วน โดยเฉพาะตั้งแต่สะโพกลงไป ขาเรียวแทบไม่อยากขยับ ความคิดที่จะลุกจากที่นอนน่ะเหรอ? ลืมไปได้เลย...
แต่คุโรโกะพบว่าหมอนข้างที่นอนกอดอยู่ทุกวันกำลังส่งเสียงแปลกๆ ซ้ำยังแข็งกว่าปกติอีกด้วย
นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนกะพริบปรือขึ้นอย่างช้าๆ ม่านประสาทตารับรู้ได้ถึงแสงแดดที่เล็ดลอดผ่านฟิล์มกระจกหน้าต่างที่ปิดไม่หมด และด้วยสัญชาตญาณ...
เธอยกมือขึ้นหวังบังเเสงนั้น หากไม่อาจยกขึ้นมาได้ดังใจ เพราะมีท่อนแขนยาวของใครสักคนพาดช่วงเอวไว้
และเพิ่งตระหนักได้ตอนนี้เองว่า ร่างกายของตัวเองกึ่งเปลือย...เสื้อผ้าไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตื่นขึ้นมาแล้วเป็นแบบนี้.... บางครั้งไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้นด้วยซ้ำ แถมยังกระดิกกระเดี้ยตัวไม่ได้เพราะอ้อมกอดที่รัดแน่นราวกับจะพันธนาการไว้กับตัวเองของใครคนนั้น
แต่นี่ไม่ใช่....
ความอบอุ่นที่เจือไปด้วยความเศร้าสร้อยโอบล้อมอยู่นี่ไม่ใช่ของ...อาคาชิคุง
แสงสีเงินสว่างสะท้อนเข้าที่ดวงตา.... มันเป็นสร้อยเงินที่มีแหวนรูปร่างคุ้นตาแบบเดียวกับเพื่อนสนิทของตัวเอง


แต่ก็ไม่ใช่อีก....
คางามิซังมีหน้าอก....
มือบางทาบลงไปกับแผ่นอกแบนราบแน่นตึง ก่อนจะครางออกมาด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ ใบหน้าอ่อนหวานซีดขาวด้วยความตกตะลึง
"ฮิ...มุโระ...ซัง"


.........
....


ถ้าจะนึกย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆ ของเธอคงจะพูดได้ว่า มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว....


เธอมีความสัมพันธ์ทางกายกับอาคาชิคุงมาห้าปีแล้ว ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น....


เรียกว่าเซ็กส์เฟรนด์ยังไม่ได้เลย พวกเราไม่ถือว่าเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ


คุโรโกะไม่แน่ใจนักว่าตอนนั่นคิดหรือมีอะไรดลใจให้ตัวเองเลือกที่จะยินยอมทำเช่นนั้น


ทั้งที่ตอนแรกเธอเข้าชมรมบาสของเทย์โควด้วยหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมแท้ๆ


แรกเลยเริ่มที่จูบ.....หลังจากการซ้อมในห้องเก็บของของคืนวันหนึ่ง


และมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปในแต่ละวัน


มันลึกซึ้งขึ้น ดูดดื่มขึ้น และเร่าร้อนมากขึ้น


ทั้งยังต้องหลบๆซ่อนๆ ไม่ให้ใครรู้....


.แต่....นั่นคงไม่ใช่สำหรับอาคาชิคุง เพราะบางครั้ง...ไม่สิ หลายครั้งคนคนนั้นจงใจ 'ทำ' ในที่ที่อาจจะมีคนผ่านมาเห็น


คิดยังไงก็ไม่เข้าท่า เปลืองเนื้อเปลืองตัว มีแต่เสียและไม่ได้อะไรสักอย่าง


แต่พอได้จ้องมองใบหน้านั้น ได้สบสายตากับดวงตาสีแดงเพลิงที่อ่อนโยนลง และได้รับรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่เคยเห็นคนคนนี้มอบให้ใคร


คุโรโกะก็รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองหลอมละลายอย่างช้าๆ


ปลายนิ้วที่สัมผัสลงมา เรียวปากที่แตะต้องไปทั่วผิวกาย


ชั่วขณะหนึ่งนั่นราวกับว่า....เธอได้เป็นเจ้าของและครอบครองคนตรงหน้าไว้เพียงคนเดียว


จักรพรรดิที่ไม่มีใครเอื้อมถึงคนนั้น




..........
....



ดวงตาสองคู่ต่างสีสบประสานกันครู่หนี่ง ในพริบตาหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยความสับสนและพร่าเลือน กระทั่งฝ่ายเจ้าของห้องเป็นผู้ขยับก่อน มือบางคว้าผืนผ้าห่มที่คลุมกายเพียงหมิ่นเหม่มาห่อร่างไว้ และจัดการเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยให้เข้าที่เข้าทาง


ความเงียบราวหลุมอากาศคลี่คลุมบุคคลทั้งสอง มีเพียงเสียงเสียดสีของเสื้อผ้าเวลาขยับตัวเท่านั้นเอง


"ผม....จำอะไร....ไม่ได้เลย"


ในความทรงจำอันเลือนรางและไม่ปะติดปะต่อ ฮิมุโระ ทัตสึยะจำได้เเค่ว่าเด็กสาวตรงหน้านั่นยืนมองไทกะของเขากับผู้ชายคนนั้นในฝั่งตรงข้ามกันเท่านั้นเอง


ดวงตาสีฟ้าอ่อนนิ่งเฉยราวกับจะไร้อารมณ์ หากมองอย่างผิวเผินนั่น เขากลับสัมผัสได้ถึงสายใยบางอย่างที่บางเบาดุจเส้นด้าย


ความเศร้า....ที่ถูกกลบงำเร้นลึกภายใน


ว่ากันว่าคนที่เหมือนกันจะดึงดูดกัน ในสถานการณ์นี้ก็คงไม่ต่างกัน


เพราะในเวลาต่อมา.... เขาก็ได้พบกับร่างเล็กบอบบางที่ไม่น่ามาอยู่ในสแน็คบาร์ยามค่ำคืนซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้ชายที่กำลังมึนเมาได้ที่


อันตราย....จนไม่อาจมองผ่านเลยไม่สนใจไปได้ ประกอบกับสายตาทุกคู่ในร้านที่จ้องมองริมฝีปากบางๆ นั่น ขณะยกแก้วขึ้นจิบด้วยสายตาเลื่อนลอย


ฮิมุโระยิ่งรู้สึกว่า .... ตัวเองต้องทำอะไรสักอย่าง


รอยยิ้มงดงามบนใบหน้าหล่อเหลาคมสวยถูกแจกจ่ายให้สายตาทุกคู่ที่มองเธอคนนั้น เป็นรอยยิ้มสวยงามที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นไออันตรายจนทำให้ผู้ได้รับถอนสายตาไปทีละคนอย่างง่ายดาย


มือเรียวยาวเลือกที่จะวางลงบนลาดไหล่เล็กนั่นให้รู้สึกตัว ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มบางๆ ให้


"ฮิมุโระซัง...."


ดีที่เจ้าตัวยังพอมีสติรับรู้ได้ว่าคนที่เดินเข้ามาหาเป็นใคร? เสียงอ่อนหวาน....นุ่มนวล แต่เย็นราวกับวานิลลาเชคนั่นยังเรียกชื่อคนทักทายได้อย่างถูกต้อง


แล้วจากนั้น....เขาก็จำได้ว่าเราสองคนต่างพูดคุยกันเล็กน้อยระหว่างการดื่ม ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัวอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่อยู่กันตามลำพังด้วยซ้ำ


หากเรื่องราวที่หลั่งไหลผ่านบทสนทนากลับคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจ รู้ตัวอีกที สรรพเสียงรอบข้างก็หายไป จวบจนบริกรมาที่โต๊ะกล่าวด้วยท่าทางกระอั่กกระอ่วนว่าถึงเวลาปิดร้านแล้วนั่นแหละ เราสองคนถึงได้รู้ตัวว่าเวลาที่เคยคิดว่าเชื่องช้าอย่างน่าปวดใจ กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว....


"ให้ผมไปส่งนะครับ ผู้หญิงเดินกลับคนเดียวตอนนี้ไม่ปลอดภัย"



ดวงตาสีฟ้าอ่อนกะพริบปริบจนเห็นได้ถึงแพขนตาสีอ่อนจางๆ บนผิวแก้ม ไม่รู้ทำไม...จู่ๆ เขาถึงได้รู้สึกว่าคนตรงหน้า...ดูน่าเอ็นดูขึ้นมาได้


ราวกับกระต่ายขาวที่มีใบหน้าเฉยชา แต่กลับมีดวงตาสีฟ้าใสชวนให้สะดุดใจ


"ไม่เป็นไรค่ะ ห้องของฉันอยู่ถัดไปอีกสองบล็อกเอง คงไม่ขอรบกวนฮิมุโระซังมากไปกว่า....นี้"


เสียงเอ่ยราบเรียบโมโนโทนจังหวะเดียวราวกับเย็นชา ผิดกับถ้อยคำสุภาพนุ่มนวล แต่ยังไม่ทันให้ชายหนุ่มขันอาสาอีกรอบ สายฝนก็พร่างพรมลงมาราวกับประชดประชัน


เนิ่นนานทีเดียว....ที่เราสองคนยืนด้วยกันภายใต้ชายคาของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง สาเกร้อนถูกจิบเรียกความอบอุ่นเข้าสู่ร่างกายที่หนาวเหน็บ กระป๋องแล้วกระป๋องเล่า


แต่เดิมก็ค่อนข้างกรึ่มๆ ได้ทีกันทั้งคู่ มาถึงจุดนี้...สติสัมปชัญญะต่างๆ ได้ถูกเจือจางด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปซะสิ้น


"ถ้ายังไงอีกสักพัก... ถ้าฝนยังไม่หยุดตก ฉันว่าเราฝ่าฝนไปที่ห้องฉันก่อน ดีกว่ามายืนขาแข็งตรงนี้นะคะ"


คุโรโกะ เท็ตสึยะเสนอ


หากเป็นปกติแล้วเด็กสาวคงไม่ทำ เพราะรู้ดีว่า 'คนคนนั้น' อาจจะโผล่มาเยี่ยมเยือนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ยามนี้.... คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปลีกตัวมา ไม่สิ... ต้องบอกว่าไม่มีความจำเป็นต้องมาจะถูกต้องกว่า และตัวฮิมุโระเองก็คงปฏิเสธ เนื่องจากคำนึงถึงความไม่เหมาะสมที่ชายหนุ่มจะขึ้นไปพักพิงถึงห้องเด็กสาวยามวิกาลเช่นนี้


แต่นี่....เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ


"ถ้าคุณว่าอย่างนั้นก็คงต้องขอรบกวนครับ"

ย้อนกลับมาที่ปัจจุบัน


"ผม....จำอะไร....ไม่ได้เลย"


สิ้นคำพูดจะเอ่ย ฝ่ายเด็กสาวถอดถอนหายใจ แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเช่นกัน ก่อนจะพูดในส่วนของตัวเอง


"ฉันก็จำอะไรไม่ได้เหมือนกันค่ะ"


ใบหน้าหวานซีดขาว เสียงที่เอ่ยก็ค่อนข้างแหบพร่า ไอฝนเมื่อคืนคงเล่นงานเธอ ตอนนี้เนื้อตัวร้อนผะผ่าว และศีรษะเหมือนถูกโยกคลอน มึนงงและวิงเวียนเกินกว่าจะเอ่ยคำยืดยาว และประโยคต่อมาของคนจริงจังก็ยิ่งทำให้ปวดหัวหนัก


"ผมจะรับผิดชอบ"


คุโรโกะส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนตอบปฏิเสธโดยไม่ต้องหยุดคิด


"ไม่ต้องหรอกค่ะ มันคง....ไม่มีอะไร"


แม้ร่องรอยและสภาพการณ์จะค่อนข้างชี้ชัดว่าเกิดอะไรเมื่อคืน แต่คุโรโกะ เท็ตสึยะก็ไม่อยากเอาเปรียบคนดีๆ แบบฮิมุโระซัง เพราะต่อให้ 'มีอะไร' กันจริงๆ


นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ....


"ช่างมันเถอะค่ะ... คุณเองก็มีเรื่องที่ต้องไปทำต่อนี่คะ"


ตัดบทเพียงเท่านั้นแล้ว ก็เดินไปห้องน้ำหน้าตาเฉย ทิ้งให้ชายหนุ่มอีกคนในห้องจมดิ่งลงไปในความรู้สึกอันหลากหลาย


หากก็ได้แต่ตัดใจ.....


ถ้าให้เลือก.... สำหรับเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 'ไทกะ' ก็สำคัญที่สุดอยู่ดี


คว้าเก็บเสื้อผ้าที่วางระเกะระกะไปทั่วมาสวมใส่ เสียงของน้ำจากห้องที่เดินผ่านแว่วเข้ามา อยากจะเอ่ยคำลาและขอโทษสักคำ แต่เด็กคนนั้นคงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยด้วยสายตาเย็นชาอยู่ดี


จึงได้แต่เดินจากมา....และทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นไว้เบื้องหลังเสียงของบานประตูที่ปิดลง



………………………
……


คุโรโกะได้ยินเสียงงับของบานประตูที่ปิดลงไปสักพักก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ดวงตาสีฟ้าอ่อนปรือปิดลง เงยใบหน้ารับสายน้ำที่พร่างพรมจากฝักบัวเบื้องบนลงมา เส้นผมเปียกปอนแนบลู่ไปกับผิวแก้ม หยดน้ำไหลร่วงไปตามแนวโครงเว้าของเรือนร่างจรดปลายเท้า เด็กสาวยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นราวกับปรารถนาให้สายน้ำชะล้างตะกอนที่ขุ่นข้นที่ทิ้งตัวอยู่ภายในจิตใจให้จางหายไป


ครู่ใหญ่...เธอถึงได้เดินออกมาจากห้องอาบน้ำ โดยไม่ลืมเช็ดเนื้อเช็ดตัวในโซนแห้งของห้อง เสร็จแล้วคว้าเสื้อนอนตัวยาวหลวมพรวกที่กองๆ ไว้มาสวมแก้ขัดไปก่อน ไม่ใส่ใจจะใส่ชั้นในหรืออะไรข้างใต้ เพราะยังไงคงไม่ต้องต้อนรับใครในเร็วๆ นี้


มือเรียวบางขยี้เส้นผมค่อนข้างสั้นของตนให้หมาดชื้นจนไม่มีหยดน้ำร่วงรินมาให้รำคาญใจ แล้วจึงเดินไปที่เตียงนอน ด้วยเป็นห้องขนาดเล็กแบบ 1DK พื้นที่ใช้สอยจึงไม่ได้มีมากมายอะไร


สายลมอ่อนๆ และแดดจางๆ ยามสายพัดโชยมาจากบานหน้าต่างที่เธอเดินมาเปิด เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ผ้าม่านผืนยาวสีขาวโปร่งทิ้งตัวระเรี่ยกับพื้นห้อง


นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนกวาดสายตามองพื้นที่รอบตัวด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ทั้งที่ควรรู้สึกผิด... หรือไม่ก็เศร้าสร้อยเจ็บปวดกว่านี้แท้ๆ แต่คุโรโกะกลับรู้จักตัวเองดีเกินกว่าที่จะเป็นเช่นนั้น หรือถ้าจะให้พูดก็รู้ตัวเองดีว่าเพราะอะไร


เพราะ....ได้ระบายอารมณ์ไปแล้วล่ะนะ


เธอคิด... ขณะที่มือยังคงค้างบนศีรษะที่เริ่มแห้งหมาดแล้ว พอๆ กับผ้าขนหนูผืนบางที่ชื้นเปียก และระหว่างที่ลังเลกับการลงไปนอนแผ่กับเตียงนอนที่ยับย่นหรือลุกขึ้นมาเก็บกวาดข้าวของที่เกลื่อนกลาดไปทั่วห้อง อย่างซากอะไรบางอย่างที่เห็นปลายสายตานั่น...


จะเรียกได้ว่ามีสติหรือความเคยชินดีล่ะ? ที่คนคนนั้นไม่ลืมที่จะป้องกัน เพราะจากวิธีสัมผัสและการแตะต้องของฮิมุโระซัง อีกฝ่ายเจนจัดและนุ่มนวล รู้ดีเกินกว่าจะเป็นพวก 'พี่ชายแสนดี' แบบที่เคยได้ยินจากคำบอกเล่าของคางามิซัง


หากเสียงออดที่หน้าประตูฉุดเธอขึ้นจากภวังค์ซะก่อน


หรือว่า..ฮิมุโระซังจะลืมของกันนะ?


คุโรโกะคิดในใจ พลางเดินไปเปิดประตูโดยละเลยที่จะส่องตาแมวเช่นทุกที และนั่นคือความผิดพลาดอย่างแรกในวันนี้ของเธอ



ใบหน้าหล่อเหลาคมคายคุ้นตาที่ประดับด้วยดวงตาสีแดงเพลิงและเส้นผมสีแดงเข้ม ระบายด้วยรอยยิ้มเยียบเย็นยืนอยู่ตรงหน้าอย่างที่คาดไม่ถึง


"เลิกกันแค่วันเดียว.... เธอหาคนใหม่มา 'กอด' ปลอบใจได้เร็วดีนี่เท็ตสึยะ"


อารามตกใจ.... อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้ขัดขืนหรือทันได้ทำอะไรทั้งนั้น ร่างสูงโปร่งเบียดกายเข้ามาในห้อง และฉวยคว้าข้อมือเธอไว้อย่างแน่นหนา กำกอบจนขึ้นข้อขาว
เธอเจ็บ.... แต่ไม่เกร็งจนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำท้วง เสียงกริ๊กลงกลอนประตูที่ถูกล็อตจากด้านในแว่วมาให้ได้ยิน


จริงอยู่ที่อาคาชิคุงต้องรู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน... รู้ว่าเธอพา 'ใครสักคน' มาค้าง แต่ที่คาดไม่ถึงคือการที่ปราดมาแต่รุ่งแบบนี้!!


ดวงตาสีแดงไล่มองไปทั่วบริเวณห้องเล็กๆ สิ่งของที่เคยเห็นดูอยู่ผิดที่ผิดทาง และที่สำคัญ... เศษซากใช้แล้วของอะไรบางอย่างที่เห็นที่บนพื้นไม้นั่น ชัด...ยิ่งกว่าชัดว่าไม่ผิดจากที่คิดสักนิด


"ดูท่า.... เธอจะสนุกมากเลยนะ เท็ตสึยะ"


เสียงทุ้มต่ำเยียบเย็นเอ่ยด้วยกระแสเสียงราวกับจะคำรามอยู่ข้างหู จากเดิมที่คว้าแค่ข้อมือ คราวนี้เจ้าตัวรวบกอดไว้จากด้านหลัง รัดช่วงเอวแน่นจนสะโพกปวดร้าว


เรียวปากแตะอังลงมาบนจุดชีพจรข้างลำคอ

"อุ่นนะ..."

พูดคำว่า 'อุ่น' แต่เสียงคนเอ่ยไม่ได้อุ่นตามเลย



Next to Night -02- .